คอหอยลูกกระเดือกของสหรัฐฯในตะวันออกกลางก็คือ ‘ซาอุดีอาระเบีย’ ส่วนลูกรักที่สหรัฐฯหย่อนไว้ในตะวันออกกลาง เพื่อกวนใจไม่ให้ตะวันออกกลางสงบสุข และไม่ให้มุสลิมทั้งหลายรวมตัวกันได้คือ ‘อิสราเอล’
ผมเคยสนทนากับผู้ใหญ่สายสหรัฐฯจากตะวันออกกลางบางท่าน คุยกันตอนแรก ท่านก็อวยสหรัฐฯ แต่พอรู้จักสนิทสนมกลมเกลียวกันแล้ว ท่านก็เผยความในใจว่า อ้า พวกเราไม่เคยชอบสหรัฐฯเลย สหรัฐฯมายุแยงตะแคงรั่วให้พวกเราทะเลาะเบาะแว้งกัน จากนั้นก็ให้ซื้ออาวุธ พวกเราขายน้ำมันได้เงินเท่าใดก็เอาไปซื้ออาวุธจากสหรัฐฯและตะวันตก
ที่เป็นภาระผูกพันก็คือค่าบำรุงรักษา เครื่องบินรบกว่าร้อยละ 90 และรถถังเกือบทั้งหมดไม่เคยถูกนำออกมาใช้เลย ซื้อมาจอดไว้เฉยๆ พอถึงเวลาก็เปลี่ยนอะไหล่ เราขายน้ำมันได้เงินมากมายเท่าใด บริษัทอาวุธอเมริกันดูดเอาไปจนเกือบเกลี้ยง
สหรัฐฯบอกว่า อ้า ข้าคือผู้คุ้มครอง พวกเอ็งทั้งหลายต้องจ่ายค่าคุ้มครอง ถ้าบ้านเมืองสงบ ก็ไม่มีใครมาขอให้ข้าคุ้มครอง ไม่มีใครมาซื้ออาวุธจากข้า ข้าจึงมีความจำเป็นที่จะต้องสร้างความขัดแย้ง เพื่อให้ประเทศใดประเทศหนึ่งรู้ถึงภัยคุกคามที่จะมาจากประเทศใกล้เคียง
แม้ไม่มีภัยคุกคามจากชาติรัฐอื่น สหรัฐฯก็จะต้องสร้าง ‘ไอ้ตัวร้าย’ ขึ้นมาก่อความวุ่นวาย เพื่อให้เกิดความกลัวจนจะต้องมาขอความคุ้มครองและซื้ออาวุธ อย่างกรณีของกองกำลังรัฐอิสลามหรือไอเอสนี่เห็นเด่นชัดถนัดมาก ตอนนี้มีการยอมรับกันว่ากองกำลังรัฐอิสลามได้รับการสนับสนุนจากมือที่มองไม่เห็นจากสหรัฐฯ
ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯชี้ไปที่ท่อนไม้ แล้วกระซิบบอกซาอุดีอาระเบียว่า ‘อ้า นี่คือนก’ ซาอุฯก็บอก ‘ครับนก’ สหรัฐฯชี้ไปที่นก แล้วบอกซาอุฯว่า ‘อ้า นี่คือไม้’ ซาอุฯ ก็จะบอกว่า ‘ครับไม้’
...
แต่ปัจจุบันไม่ใช่แล้วครับ สหรัฐฯต้องการให้ซาอุฯ คงหรือเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพื่อทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลง ถ้าเป็นเมื่อก่อน ซาอุฯ จะต้องพูดว่า ‘ครับ เพิ่ม’ แต่วันนี้ไม่ใช่แล้วครับ ซาอุฯ สวนคำสั่งของสหรัฐฯด้วยการลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบ 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยจะลดตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2022 เป็นต้นไป
การลดกำลังการผลิตน้ำมัน ทำให้สหรัฐฯโมโหโกรธาซาอุฯ และประกาศว่า ข้าฯ สหรัฐฯจะประเมินความสัมพันธ์กับซาอุฯ ซะใหม่ หมายความว่าที่เคยคบค้าสมาคมสนิทสนมกลมเกลียวกันนั้น ข้าฯ สหรัฐฯขอให้เอ็ง ซาอุฯ จงลืมซะ และต่อแต่นี้เป็นต้นไป เอ็งจะได้รับผลกรรมที่ทำไว้กับข้าฯ อย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยงเกี่ยงงอน ไบเดนสัญญาต่อหน้าสาธารณชนว่า ซาอุฯ จะต้องเจอกับการตอบสนองจากกรรมที่ทำไว้กับสหรัฐฯ แต่ไบเดนไม่ได้ให้รายละเอียดว่าผลกรรมที่ซาอุฯ จะต้องเจอนั้นคืออะไรยังไงบ้าง
ตอนที่มกุฎราชกุมารซาอุฯ มีข่าวเกี่ยวดองหนองยุ่งกับการฆาตกรรมนายจามาล คาช็อกกี สื่อมวลชนในสถานกงสุลซาอุฯ ประจำอิสตันบูล ตอนนั้นไบเดนประกาศว่าจะทำให้ซาอุฯ เป็นรัฐนอกคอกของสังคมนานาอารยะประเทศ แต่สหรัฐฯก็ไม่กล้าทำจริงเพราะคงจะเสียดายเงินจำนวนมากมายมหาศาลที่ซาอุฯ จะซื้ออาวุธจากสหรัฐฯ กรกฎาคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดีไบเดนแห่งสหรัฐฯบินไปเข้าเฝ้ามกุฎราชกุมาร โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน แห่งซาอุดีอาระเบีย
ไบเดนขอมกุฎราชกุมารว่า ‘ข้าพเจ้าขอให้ท่านดำรงคงกำลังการผลิตน้ำมัน’ ซึ่งตอนนั้นเราทุกคนจำได้ว่าซาอุฯ ‘ไม่รับปาก’
วันนี้เป็นที่แน่นอนแล้วครับ ว่าซาอุฯไม่ได้แยแสแคร์สหรัฐฯเหมือนก่อน ทั้งที่สหรัฐฯบอกว่า อ้า สหรัฐฯยินดีจะขายระบบขีปนาวุธแพทริออต MIM-104E จำนวน 300 ระบบ ให้ซาอุฯ
ไม่มีใครรู้พระทัยมกุฎราชกุมารซาอุฯ แต่เราก็นั่งคิดในอีกมุมหนึ่งว่า ถ้าไม่มีใครไปยุแหย่ให้เกิดความขัดแย้ง ซาอุฯก็ไม่รู้ว่าจะเอาไอ้ขีปนาวุธบ้าบอคอแตกนี่ไปทำอะไร.
นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com