นายกรัฐมนตรีลิซ ทรัสส์ ของอังกฤษ กล่าวขอโทษประชาชน โดยยอมรับว่ารัฐบาลของเธอ "ทำผิดพลาด" จากการปฏิรูปนโยบายหลายอย่างที่มากเกินและเร็วเกินไปจนทำให้อังกฤษต้องประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ แต่ยืนยันว่าจะยังคงดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไป

นายกรัฐมนตรีทรัสส์กล่าวกับสถานีโทรทัศน์บีบีซี ว่า เธอขอยอมรับผิดและขอโทษต่อประชาชนอังกฤษจากการใช้นโยบายที่ผิดพลาดในการบริหารประเทศ เนื่องจากนโยบายเหล่านี้เป็นสิ่งที่มากเกินไปและเร็วเกินไป แต่ยืนยันว่า เธอจะยังคงดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษเพื่อบริหารประเทศชาติต่อไป แม้มีหลายฝ่ายออกมาตั้งข้อสงสัยว่ามีบุคคลใดเป็นผู้อยู่เบื้องหลังนโยบายของรัฐบาลอังกฤษหรือไม่ ผู้นำอังกฤษระบุว่า เธอยังคงเชื่อมั่นในนโยบาย "เศรษฐกิจที่เติบโตสูง, ภาษีต่ำ" (high-growth, low-tax economy) แต่ตอนนี้เธอจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับความมั่นคงด้านเศรษฐกิจของอังกฤษก่อน

ลิซ ทรัสส์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวขอโทษโดยยอมรับว่ารัฐบาลของเธอ "ทำผิดพลาด" หลังจากการประกาศมาตรการทางเศรษฐกิจในงบประมาณขนาดเล็กของเดือนที่แล้วทำให้ตลาดการเงินตื่นตระหนก

ทรัสส์กล่าวว่า “ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าเราทำผิดพลาด ฉันขอโทษสำหรับความผิดพลาดเหล่านั้น แต่ฉันแก้ไขข้อผิดพลาดแล้ว และได้แต่งตั้งรัฐมนตรีคลังคนใหม่ เพื่อฟื้นฟูเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและวินัยทางการคลัง”

ความเห็นของเธอมีขึ้นในขณะที่รัฐมนตรีคลังคนใหม่ของสหราชอาณาจักรประกาศยกเลิกแผนเศรษฐกิจของรัฐบาล ในการลดภาษีและแผนการใช้จ่ายส่วนใหญ่ที่ประกาศเมื่อไม่ถึงเดือนก่อน ขณะที่การเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้เกิดคำถามว่าผู้นำอังกฤษคนปัจจุบันจะสามารถดำรงตำแหน่งได้อีกนานเท่าใด

...

ในการตอบคำถามเกี่ยวกับอนาคตของเธอ นายกรัฐมนตรีอังกฤษกล่าวว่า เธอต้องการมุ่งเน้นไปที่ "การทำงานเพื่อประชาชนชาวอังกฤษ"

"เราอยู่ในยุคเศรษฐกิจที่ยากลำบาก เราอยู่ในช่วงเวลาที่ทั่วโลกกำลังเผชิญความยากลำบากในขณะที่สงครามยังคงเกิดขึ้นในยูเครน และตอนนี้เป็นเวลาที่จะมุ่งเน้นที่การทำงานเพื่อประชาชน"

คำกล่าวของนายกรัฐมนตรีทรัสส์มีขึ้นหลังจากที่นายเจเรมี ฮันต์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังคนใหม่ของอังกฤษ ที่เข้ารับตำแหน่งแทนนายควาซี ควาร์เต็ง อดีตรัฐมนตรีคลังที่เพิ่งถูกปลดจากตำแหน่งเมื่อวันศุกร์ ได้ประกาศยกเลิกนโยบายปรับลดภาษีของเธอเกือบทั้งหมดเพื่อยับยั้งปัญหาเศรษฐกิจ จนทำให้สถานะผู้นำของทรัสส์ตกอยู่ในภาวะสั่นคลอน ขณะที่นายโรเจอร์ เกล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคอนุรักษนิยม ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลอังกฤษ ระบุว่า นายฮันต์เป็นนายกรัฐมนตรีโดยพฤตินัยของอังกฤษ

นายฮันต์ระบุว่า เขาและนายกรัฐมนตรีทรัสส์ได้เห็นพ้องร่วมกันเมื่อวันอาทิตย์ในการยกเลิกนโยบายปรับลดภาษีเกือบทั้งหมดที่ผู้นำอังกฤษได้ประกาศไปเมื่อ 3 สัปดาห์ก่อน นายฮันต์ยังคาดการณ์ว่าการยกเลิกนโยบายดังกล่าวจะทำให้รัฐบาลมีเงินเพิ่มขึ้นปีละ 32,000 ล้านปอนด์ หรือราว 1.38 ล้านล้านบาท

ก่อนหน้านี้มีรายงานอ้างแหล่งข่าวไม่เปิดเผยชื่อว่า ส.ส.พรรคอนุรักษนิยมมากกว่า 100 คน พร้อมยื่นญัตติไม่ไว้วางใจนางลิซต่อนายเกรแฮม เบรดี ประธานคณะกรรมการของพรรคที่ทำหน้าที่จัดการเลือกตั้งและลงญัตติไม่ไว้วางใจหัวหน้าพรรค โดยจะขอให้นายเบรดีแจ้งนางทรัสส์ให้ลาออกหรือแก้ไขระเบียบพรรค เพื่อเปิดทางให้มีการลงญัตติไม่ไว้วางใจโดยทันที.