สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 12 ต.ค.ว่า ในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับเจค แทปเปอร์ จากสถานีโทรทัศน์ช่องซีเอ็นเอ็น นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศเตือนซาอุดีอาระเบียจะต้องเผชิญกับผลลัพธ์บางอย่างตามมา โดยไม่ระบุถึงทางเลือกที่กำลังพิจารณา หลังกลุ่มโอเปกพลัส ที่มีซาอุดีอาระเบียเป็นผู้นำโดยพฤตินัยประกาศลดการผลิตน้ำมันลง 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน เมื่อสัปดาห์ก่อน เป็นการปรับลดการผลิตครั้งใหญ่สุดนับแต่ปี 2563 และยังเป็นการปรับลดเดือนที่ 2 ติดต่อกัน ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าการลดอุปทานทั่วโลกย่อมส่งผลให้ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น เป็นการช่วยให้รัสเซียซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก มีรายได้เพิ่มในการทำสงครามกับยูเครน
ก่อนหน้านั้นในวันเดียวกัน แครีน ฌอง ปิแอร์ โฆษกทำเนียบขาว กล่าวในการบรรยายสรุปกับผู้สื่อข่าวว่า สหรัฐฯ จะประเมินความสัมพันธ์กับซาอุดีอาระเบียใหม่อีกครั้งและจะมีความสัมพันธ์กับซาอุดีอาระเบียที่แตกต่างไปแต่ไม่ได้ระบุกรอบเวลาและรายละเอียดที่ชัดเจน โดยระบุเพียงว่า สหรัฐฯจะจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิดในช่วงสัปดาห์นี้และเดือนหน้า ด้านเจ้าชายไฟซอล บิน ฟาร์ฮาน อัล-ซาอูด
รมว.ต่างประเทศซาอุดีอาระเบีย กล่าวให้สัมภาษณ์ กับสถานีโทรทัศน์อัล-อาราบิยาของซาอุดีอาระเบียว่า การตัดสินใจของโอเปกพลัสเป็นการตัดสินใจทางเศรษฐกิจล้วนๆ ได้รับการยอมรับเป็นเอกฉันท์จากประเทศสมาชิก ยืนยันว่าตัดสินใจอย่างเหมาะสม.