มาร์ก ซัคเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของเมตา (Meta) เปิดตัวแว่นที่ใช้เทคโนโลยีเสมือนจริง (VR) ที่มีชื่อว่า "เควสต์ โปร" (Quest Pro) อย่างเป็นทางการ ในการประชุมสำหรับนักพัฒนาที่จัดขึ้นทางออนไลน์ พร้อมกับราคาขาย 1,499 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 57,000 บาท ซึ่งนับว่าสูงกว่า "เควสต์ ทู" (Quest 2) แว่นตารุ่นล่าสุดของเมตา ที่มีราคาเริ่มต้น 399 ดอลลาร์ เกือบ 4 เท่า
"เควสต์ โปร" มีเลนส์ที่บางกว่า แบตเตอรี่แบบโค้งที่ติดตั้งไว้บริเวณด้านหลังของอุปกรณ์รัดศีรษะ และคอนโทรลเลอร์ที่สามารถจับการเคลื่อนไหวได้ด้วยตัวเอง นอกจากนั้นยังผสมผสานความสามารถในการมองภาพแบบเสมือนจริง ซึ่งทำให้ผู้ใช้สามารถมองเห็นภาพแบบดิจิทัลที่ซ้อนทับกับโลกแห่งความจริงได้อย่างสมบูรณ์
"เควสต์ โปร" ยังมีฟีเจอร์เด่นสองอย่างคือ ระบบตรวจจับดวงตาและใบหน้า ทำให้สามารถแสดงผลสีหน้าออกมาทางอวตาร์ได้มากขึ้น และการปรับปรุงการตั้งค่าให้อุปกรณ์สามารถผ่านระบบได้โดยไม่ต้องล็อกอิน (Passthrough) ที่ให้แสดงภาพโลกจริงกับวัตถุเสมือนได้แบบสี จากเดิมที่เป็นขาวดำ
ซัคเคอร์เบิร์ก กล่าวว่า เทคโนโลยีการสร้างโลกคู่ขนานผสมเข้ากับโลกความเป็นจริง หรือ MR ถือเป็นก้าวที่สำคัญต่อไปสำหรับเทคโนโลยี VR ขณะที่นักวิเคราะห์กล่าวว่า ราคาเปิดตัวที่ค่อนข้างสูงทำให้อุปกรณ์ดังกล่าวเหมาะสำหรับผู้ใช้ระดับบน รวมถึงผู้ใช้ที่มีความสนใจเทคโนโลยีนี้ และผู้ใช้ในระดับองค์กร มากกว่าการจำหน่ายในตลาดทั่วไป
นอกจากนั้น นายสัตยา นาเดลลา ซีอีโอของไมโครซอฟท์ ยังประกาศว่า แพลตฟอร์ม "วินโดวส์ 365" จะมีให้บริการบน "เควสต์ โปร" ในขณะที่เมตาพยายามทำให้เทคโนโลยี MR และ VR สามารถนำไปใช้เป็นเครื่องมือการทำงาน และเครื่องมือเพื่อความบันเทิงไปพร้อมๆ กัน
เมตา หรือเดิม เฟซบุ๊ก กำลังเดิมพันอนาคตในการสร้าง "เมตาเวิร์ส" หรือโลกเสมือนจริงที่ผู้คนสามารถใช้ชีวิตประจำวันของพวกเขาในรูปแบบของอวตาร์และสำรวจพื้นที่เสมือนจริงในจินตนาการ
...
ทั้งนี้ บริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งกำลังสร้างเมตาเวิร์สของตัวเอง แต่คาดว่าอาจจะต้องใช้เวลาในการพัฒนาอีกหลายปีก่อนที่จะนำไปใช้ได้จริง ขณะที่ "ฮอไรซันส์" (Horizons) โลกแห่งความเป็นจริงเสมือนที่เมตาได้พัฒนาขึ้น ได้รับเสียงวิจารณ์ที่หลากหลายและมีรายงานเกี่ยวกับอวตาร์ที่ใช้ความรุนแรงและการล่วงละเมิดทางเพศ.