ประชาชนหลายพันคนตามเมืองต่างๆทั่ว สหราชอาณาจักร ออกมาประท้วงกรณีข้าวของแพง ที่เป็นวิกฤติค่าครองชีพของคนอังกฤษ อีสบอร์น เอดินเบอระ นิวคาสเซิล นอริช ส่วนใหญ่จะเป็นคนอังกฤษต้นตำรับรวมตัวกันประท้วงการขึ้นค่าน้ำค่าไฟ ในลอนดอน มีมาตรการจากผู้ประท้วง นัดกันไม่จ่ายค่าน้ำค่าไฟ ด้วยซ้ำ เบื้องต้นมีคนอังกฤษลงชื่อกันเกิน 3 แสนคน เรียกร้องให้มีการยุบสภาจัดการเลือกตั้งใหม่ เพราะรัฐบาลชุดนี้ยุ่งเหยิงมาก เดี๋ยวก็ปลดนายกฯเดี๋ยวก็ตั้งนายกฯกันใหม่ นึกถึงเหตุการณ์ในบ้านเราก็มีลักษณะทำนองเดียวกัน เพียงแต่ว่า คนไทยรักความสงบมากกว่า และกลไกของรัฐแข็งแกร่งมากกว่าภาคประชาชน เลยเอารัฐบาลไม่ลงซะที

ค่าเงินบาทของไทย อ่อนค่าทะลุ 38 บาทต่อดอลลาร์ เรียบร้อย กำลังคิดกันอยู่ว่าถ้าไปแตะที่ 40 บาทต่อดอลลาร์ จะทำอย่างไรต้องคิดกันล่วงหน้า แบงก์ชาติก็ยังนิ่งๆไม่มีมาตรการอะไรออกมา ดีที่ว่าค่าเงินประเทศอื่นก็อ่อนค่า เช่น เงินปอนด์อังกฤษ จาก 46.3099 เหลือ 41.5538 เงินยูโร จาก 39.9381 เหลือ 37.2364 และ เงินเยนของญี่ปุ่น จาก 30.7525 เหลือ 26.7493 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

คนที่มองโลกในแง่ดีก็จะบอกว่า เป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยว ซึ่งก็ต้องดูปัจจัยอื่นประกอบด้วย เช่น เรื่องของค่าครองชีพ แรงจูงใจอื่นๆ อย่าง เวียดนามค่าเงินดองแข็งค่าขึ้น แต่เมื่อเทียบค่าใช้จ่ายกันแล้ว การท่องเที่ยวในเวียดนามมีค่าใช้จ่ายแค่หมื่นต้นๆก็เที่ยวได้หลายวัน จะว่าบ้านเราได้เปรียบเสียเลยทีเดียวก็ไม่ถูก

อีกปัจจัยที่จะมองข้ามไม่ได้คือ สงครามค่าเงิน โดยดูจากการที่ รัฐบาลจีน มี คำสั่งไปถึงสถาบันการเงินภาครัฐของจีนทั้งในและต่างประเทศ ให้เทขายเงินดอลลาร์ครั้งใหญ่และให้เข้าซื้อเงินหยวนเอาไว้ให้มากที่สุด อ้างว่าเป็นการรักษาเสถียรภาพของเงินหยวน ให้มีความสมดุล แต่เราต้องไม่ลืมว่า เราเก็บเงินดอลลาร์ ผูกตะกร้าเงินไว้กับเงินดอลลาร์มากที่สุด ไม่มีใครเก็บเงินหยวนเอาไว้แน่นอน อะไรจะเกิดขึ้นกับค่าเงินในอนาคตยังตอบไม่ได้

เราต้องซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงเราต้องซื้อก๊าซมาใช้จากต่างประเทศ เป็นหลัก เราเทียบค่าเงินในการซื้อขายพลังงานต่อบาร์เรลเป็นเงินดอลลาร์ นำเข้ามากก็ต้องจ่ายมาก กองทุนพลังงานติดลบอยู่เกือบ 2 แสนล้าน ติดลบก็หมายถึงเป็นหนี้ ส่วนจะกระทบกี่เด้งไปว่ากันอีกที

...

เวลานี้ รัสเซีย ที่ค้าขายก๊าซให้กับยุโรปมากที่สุด ไม่เอาเงินยูโรหรือดอลลาร์ แต่ขอค่าก๊าซเป็น เงินรัสเซีย สงครามค่าเงินอ่อนๆค่อยๆซ้ำเติมเศรษฐกิจโลกทีละน้อย

ต้องจับตาสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยังปิดบัญชีไม่ลง ต้องยอมรับว่ายูเครนเกิดความสูญเสียอย่างมหาศาล เนื่องจากพืชผลการเกษตรอาหารสัตว์ น้ำมัน ก๊าซ ที่เคยเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญ เป็นอัมพาตไปครึ่งซีก แต่รัสเซียกับสูญเสียมากกว่า ทั้งกำลังพล และทรัพยากร ยุทโธปกรณ์ งบประมาณมหาศาลที่ใช้ในการรบครั้งนี้ ที่จะเสียต่อไปอีกคือความเชื่อมั่นจากในและต่างประเทศ คนรัสเซียหนีออกนอกประเทศเพราะกลัวถูกเกณฑ์ทหาร จนฟินแลนด์ต้องปิดพรมแดนเพราะมีคนรัสเซียหนีเข้าไปเยอะจนรับไม่ไหว ถึงรัสเซียจะประกาศผนวก 4 แคว้นของยูเครนเข้ากับรัสเซีย ก็ไม่ได้หมายความว่าจะ ชนะสงคราม เหลือไพ่ใบสุดท้าย สงครามนิวเคลียร์ที่ยังไม่รู้ว่าจะเป็น สงครามโลกหรือไม่.

หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th