เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดความเคลื่อนไหวทางการเมืองโลกที่สำคัญ หลังนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เดินสายต่างแดนเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี นับตั้งแต่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสมรณะโควิด-19 ไปร่วมการประชุม สุดยอดองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (SCO) ในนครซามาร์คันด์ อุซเบกิสถาน

และคนที่พบปะก็ไม่ใช่ใครอื่นๆ นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ที่กำลังถูกขั้วตะวันตกรุมกระหน่ำ จากกรณี “ปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครน” แน่นอนงานนี้ สื่อ ฝรั่งเลือกที่จะรายงานว่า ผู้นำจีนก็แสดงความไม่พอใจเรื่องสงครามที่เกิดขึ้น

แต่สำหรับสื่อขั้วตะวันออก มองว่าหัวใจสำคัญของการพบปะครั้งนี้คือการสร้าง “เสถียรภาพ” แก่โลก โดยนายสี จิ้นผิง กล่าวว่า เมื่อเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงของโลก ยุคสมัย และประวัติ ศาสตร์ของเรา จีนจะทำงานร่วมกับรัสเซียเพื่อทำหน้าที่รับผิดชอบในฐานะประเทศสำคัญๆให้สำเร็จ และมีบทบาทสำคัญในการอัดฉีดเสถียรภาพเข้าสู่โลกแห่งการเปลี่ยนแปลงและความวุ่นวาย

ควรขยายความร่วมมือเชิงปฏิบัติ ปกป้องความมั่นคงและผลประโยชน์ของภูมิภาค และรักษาผลประโยชน์ร่วมกันของประเทศกำลังพัฒนาและประเทศตลาดเกิดใหม่ พร้อมแสดงจุดยืนชัดเจนเรื่องไต้หวัน กล่าวชื่นชมการยึดมั่นในหลักการจีนเดียวของรัสเซีย ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน ฝ่ายจีนต่อต้านกองกำลังแบ่งแยกดินแดน “อิสรภาพไต้หวัน” และการแทรกแซงจากภายนอก ไม่มีประเทศใดมีสิทธิ์ทำหน้าที่เป็นผู้พิพากษาในประเด็นไต้หวัน

ขณะที่นายวลาดิเมียร์ ปูตินเอง ย้ำว่า สิ่งหนึ่งที่ยังคงไม่เปลี่ยนคือมิตรภาพและความไว้วางใจระหว่างรัสเซีย-จีน ความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมนั้นมั่นคงดุจภูเขา รัสเซียและจีนต่างยืนหยัดเพื่อระเบียบระหว่างประเทศที่ยุติธรรมและสมเหตุสมผลมากกว่า เป็นแบบอย่างที่ดีในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

...

พร้อมลั่นจุดยืน รัสเซียยึดมั่นในหลักการจีนเดียว และขอตำหนิการเคลื่อนไหวยั่วยุของประเทศอื่นๆในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์หลักของจีน

ในเมื่อชาติตะวันตกพยายามสร้างความเป็นเอกภาพ แพ็กกันแน่น ก็ไม่แปลกที่ “ขั้วทางเลือก” จะต้องแสดงพลังของความร่วมมือเช่นกัน.

ตุ๊ ปากเกร็ด