หน่วยงานอังกฤษเผย ค่าพลังงานครัวเรือนเฉลี่ยจะเพิ่มขึ้นถึง 80% ในเดือนตุลาคม ไปอยู่ที่เฉลี่ย 3,549 ปอนด์ต่อปี มากกว่าเดือนเดียวกันปีก่อนร่วม 3 เท่า

สำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า สำนักงานกำกับตลาดก๊าซธรรมชาติและไฟฟ้า หรือ Ofgem ซึ่งเป็นองค์กรของรัฐบาลอังกฤษที่มีหน้าที่กำหนดเพดานค่าไฟฟ้า เปิดเผยในวันศุกร์ที่ 26 ส.ค. 2565 ว่า ราคาค่าพลังงานครัวเรือนในสหราชอาณาจักรจะเพิ่มขึ้น 80% ไปอยู่ที่ค่าเฉลี่ยครัวเรือนละ 3,549 ปอนด์ต่อปี (ราว 1.5 แสนบาท) นับตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นไป

นายโจนาธาน แบรร์ลีย์ ระบุว่า นี่เป็นวิกฤติที่จำเป็นต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน และรัฐบาลจต้องมีมาตรการที่เด็ดขาด การเพิ่มขึ้นของค่าพลังงานจะส่งกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อครัวเรือนทั่วประเทศ และการเพิ่มขึ้นอีกครั้งน่าจะเกิดขึ้นในเดือนมกราคม สะท้อนให้เห็นถึงแรงกดดันด้านราคาอย่างมีนัยสำคัญในตลาดพลังงาน

นายแบรร์ลีย์ยังเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีคนต่อไปของประเทศ ซึ่งตอนนี้เหลือแคนดิเดตเพียง 2 คนคือนาง ลิส ทรัส และนายริชี ซูนัค จำเป็นต้องเคลื่อนไหวทันทีเมื่อรับตำแหน่งในเดือนหน้า “มันชัดเจนว่านายกรัฐมนตรีคนใหม่จำเป็นต้องลงมือเพิ่มขึ้นเพื่อรับมือผลกระทบจากการเพิ่มขึ้นของราคาพลังงานที่จะมาถึงในเดือนตุลาคมและปีหน้า” “และการตอบสนองต้องสอดคล้องกับขอบเขตของวิกฤติที่อยู่ตรงหน้าเรา”

Ofgem ระบุด้วยว่า พวกเขาไม่เปิดเผยตัวเลขคาดการณ์ค่าไฟครัวเรือนในเดือนมกราคม ซึ่งเป็นช่วงที่เพดานราคาใหม่มีผลบังคับใช้ เพราะตลาดยังเปลี่ยนแปลงได้ง่าย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในตลาดก๊าซธรรมชาติในฤดูหนาวหมายความว่า ราคาอาจเลวร้ายลงอย่างมีนัยสำคัญไปตลอดปี 2566

...

ทั้งนี้ ราคาพลังงานพุ่งสูงขึ้นอย่างมากในปีนี้ หลังจากราคาก๊าซและไฟฟ้าในครัวเรือน ที่สูงอยู่แล้วเพราะกันระบาดของไวรัสโควิด-19 พุ่งขึ้นอีกตามหลังการบุกโจมตียูเครนของรัสเซีย และการที่มอสโกตอบโต้มาตรการคว่ำบาตรด้วยการจำกัดการส่งก๊าซเข้าสู่ยุโรป

อัตราเฉลี่ยใหม่ของค่าพลังงานและก๊าซธรรมชาติสำหรับประชาชน 24 ล้านครัวเรือน หมายความว่า ค่าพลังงานจะเพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคมปีก่อนเกือบ 3 เท่า ซึ่งมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 1,277 ปอนด์ (ราว 54,220 บาท) เท่านั้น และเป็นหนึ่งในปัจจัยใหญ่ที่ทำให้อัตราเงินเฟ้อในประเทศเพิ่มสู่ค่าสูงสุดในรอบ 40 ปี