ออสเตรเลียขอความร่วมมือภาคธุรกิจให้พนักงานทำงานจากบ้าน พร้อมแนะประชาชนสวมหน้ากากเมื่ออยู่ในอาคารและรับวัคซีนเข็มกระตุ้น หลังเชื้อโอมิครอนระบาดหนักทำผู้ป่วยพุ่งล้นโรงพยาบาล

การระบาดของเชื้อกลายพันธุ์โอมิครอนทำให้จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลในออสเตรเลียเพิ่มสูงขึ้นจนเกือบทะลุสถิติในวันพุธ ส่งผลให้ทางการต้องเร่งขอความร่วมมือจากภาคธุรกิจต่างๆ ให้อนุญาตให้พนักงานทำงานจากที่บ้าน พร้อมทั้งแนะนำประชาชนให้สวมหน้ากากหากอยู่ในอาคาร และรีบไปรับวัคซีนเข็มกระตุ้นโดยเร็วที่สุด

โดยการระบาดครั้งนี้นับเป็นการระบาดของเชื้อโอมิครอนระลอกที่ 3 ของออสเตรเลีย โดยเป็นเชื้อกลายพันธุ์สายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 ซึ่งทำให้มีผู้ป่วยสะสมแล้วมากกว่า 300,000 รายในรอบ 7 วันที่ผ่านมา ขณะที่หน่วยงานสาธารณสุขคาดว่า ตัวเลขที่แท้จริงอาจจะมากกว่านี้ถึง 2 เท่าเนื่องจากไม่มีการตรวจคัดกรอง โดยในวันอังคารที่ผ่านมาวันเดียว มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มมาถึง 50,000 ราย ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในรอบ 2 เดือน

ศาสตราจารย์ พอล เคลลี หัวหน้าเจ้าหน้าที่การแพทย์ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาด้านสุขภาพหลักของรัฐบาลออสเตรเลีย ให้สัมภาษณ์แก่สถานีวิทยุเอบีซีในวันนี้ว่า มีการคาดการณ์ว่ายอดผู้ติดเชื้อที่ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลจะแตะระดับสูงสุดในเร็วๆ นี้ เราจึงจำเป็นต้องทำอะไรบางอย่างอย่างน้อยเป็นระยะเวลาสั้นๆ ซึ่งการทำงานจากบ้าน เป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญ ที่จะช่วยยับยั้งการแพร่ระบาดในวงกว้างได้ แต่ไม่จำเป็นต้องนำมาตรการบังคับสวมหน้ากาก หรือมาตรการอื่นๆ มาใช้อีกครั้ง

ในเวลานี้มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่รักษาตัวในโรงพยาบาลประมาณ 5,300 คน เกือบจะเท่ากับระดับสูงสุดที่ 5,390 คนในช่วงเดือนมกราคม ที่มีการระบาดของสายพันธุ์ย่อย BA.1 โดยพบทั้งในรัฐควีนส์แลนด์ ทาสมาเนีย และเวสเทิร์น ออสเตรเลีย ซึ่งต่างก็ต้องรับมือกับผู้ป่วยจำนวนมากที่สุดนับตั้งแต่มีการระบาดมา

...

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ออสเตรเลียเพิ่งกลับมาใช้นโยบายจ่ายเงินชดเชยให้แก่แรงงานทั่วไป ที่ต้องหยุดงานเนื่องจากต้องกักตัวเนื่องจากโควิด-19 หลังจากที่มีคนงานจำนวนมากล้มป่วย ขณะที่เจ้าหน้าที่ด่านหน้าจำนวนมากก็ล้มป่วย หรือต้องแยกกักตัว ทำให้ระบบสาธารณสุขเข้าสู่ภาวะวิกฤติอีกรอบ ขณะเดียวกันก็มีการประกาศแจ้งเตือนประชาชนให้รับออกมารับวัคซีนเข็มกระตุ้นโดยเร็ว เพราะหากล่าช้าออกไปจะเกิดวิกฤติผู้ป่วยล้นโรงพยาบาลแน่นอน

นับจนถึงขณะนี้ 95 เปอร์เซ็นต์ของ ประชากรออสเตรเลียวัย 16 ปีขึ้นไปฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว แต่มีผู้ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเข็ม 3 หรือ 4 แล้วเพียงแค่ 71 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ยอดติดเชื้อสะสมในประเทศอยู่ที่เกือบ 9 ล้านคน และเสียชีวิตสะสม 10,845 ศพ ซึ่งยังนับว่าน้อยกว่าหลายประเทศในเวลานี้.