กระทรวงดิจิทัลฯจับมือ ศปอส. ตร. ส่งตำรวจไทยประสานตำรวจกัมพูชา ลุยทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์รายใหญ่ 4 แก๊งในเขมร รวบผู้ต้องหาตามหมายจับ 74 คน และพบความผิดซึ่งหน้าระหว่างตรวจค้นอีก 15 คน รวม 89 คน เตรียมส่งกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย ผอ.ศปอส.ตร.ปลื้ม ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากรัฐบาลกัมพูชา สถานทูต และตำรวจกัมพูชา เตรียมประสานงานลุยจับอีกเพียบ
กระทรวงดิจิทัลฯร่วมกับตำรวจ ศปอส.ตร.ประสานทางการกัมพูชาทลาย 4 แก๊งคอลเซ็นเตอร์รายใหญ่ เปิดเผยขึ้นจากกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 11 ก.ค. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ ศปอส.ตร. (PCT) เผยว่า ได้รับมอบหมายจาก พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ให้เดินทางมาพร้อมกับคณะตัวแทนของนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (MDES) เพื่อร่วมหารือและทำบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์และอาชญากรรมทางไซเบอร์แบบทวิภาคีกับรัฐบาลกัมพูชา รวมทั้งติดตามผลการปฏิบัติการจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 4 แก๊ง ผู้ต้องหารวม 74 คน เพื่อนำตัวกลับไปดำเนินคดียังประเทศไทย
ก่อนหน้านี้ส่งชุดปฏิบัติการ PCT จำนวนกว่า 20 นาย ชุดที่ 1 นำโดย พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.ภ.8 เป็นหัวหน้าชุด พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย รอง ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.ชย พานะกิจ ผกก.สอบสวน บก.สส.สตม. และ พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง ผกก.1 บก.สส.สตม. ชุดที่ 5 นำโดย พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 เป็นหัวหน้าชุด พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง ผกก.สอบสวน กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.ภ.2 และ พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.สส.ภ.จ.ระยอง พร้อมกำลังประสานตำรวจกัมพูชาให้ช่วยติดตาม จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับนำไปสู่ปฏิบัติการเข้าตรวจค้น 5 จุด
...
จุดแรกเมื่อวันที่ 21 มิ.ย.เข้าตรวจค้นโรงแรมจิงเฉิง อาคาร 12 ถนนสองธนู เมืองพระสีหนุ จับกุม แก๊งคอลเซ็นเตอร์รวม 21 หมายจับ ใช้รูปโปรไฟล์คนหน้าตาดีผ่านแอปพลิเคชันหาคู่ Tinder หลอกลวงให้หลงรัก และชวนลงทุนใน MetaTrader 5 (ฟอเร็กซ์) หรือซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลโดยให้เทรด วิเคราะห์ทางเทคนิคตามคำแนะนำ และชักชวนให้ลงทุนกับโบรกเกอร์ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อหลอกให้ลงเงินแต่ไม่มีการลงทุนจริง จุดที่ 2 ที่กาสิโนโป๋ไหล ถนนปุโลไว 300 เมืองพระสีหนุ ไม่พบผู้ต้องหา
จุดที่ 3 เมื่อวันที่ 6 ก.ค.ที่เมืองพระสีหนุ ประตูแดง จับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 18 หมายจับแอบอ้างเป็นตำรวจ สภ.แหลมฉบัง อยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบตัวบุคคล ที่น่าสนใจสามารถจับกุมตัวนายจิรายุ เพิ่มชื่น แอบอ้างเป็นสายที่ 3 ผกก.สภ.แหลมฉบัง ถือเป็นผู้ต้องหาสำคัญในคดี จุดที่ 4 ที่เมืองพระสีหนุ จับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกให้กู้เงินออนไลน์ ตามหมายจับ สภ.เมืองจันทบุรี จำนวน 10 หมาย จุดที่ 5 เมื่อวันที่ 7 ก.ค.ที่เมืองปอยเปต จับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็นบริษัทส่งพัสดุดีเอชแอล (DHL) ตามหมายจับ สภ.ท่าใหม่ จำนวน 25 หมาย รวมจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 74 คน ขณะเข้าตรวจค้นพบ คนไทยกำลังทำงานร่วมกับกลุ่มผู้ต้องหา นำตัวมาสอบสวน ดำเนินคดีเพิ่มเติมอีก 15 คน รวมทั้งสิ้น 89 คน
รอง ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า การจับกุมแก๊งคอล เซ็นเตอร์ทั้ง 4 แก๊งนี้ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ ประเทศ กัมพูชา ผู้ช่วยทูตตำรวจ และตำรวจกัมพูชา วันนี้เดินทางมาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจกัมพูชา เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งหมดยังอยู่ระหว่างดำเนินคดีตามกฎหมายกัมพูชา เช่น กฎหมายคนเข้าเมือง เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการแล้วกัมพูชาจะส่งตัวผู้ต้องหาทั้งหมดให้ไทย ตนและเจ้าหน้าที่ PCT จะเดินทางไปรับตัวที่ จ.สระแก้ว เพื่อนำตัวไปสอบสวนดำเนินคดีต่อไป ที่ผ่านมาสามารถออกหมายจับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ 237 หมายจับ จับกุมแล้ว 138 หมาย อยู่ระหว่างประสานงานติดตามจับกุมอีก 99 หมาย
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์กล่าวด้วยว่า การป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางออนไลน์โดยเฉพาะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และการหลอกลงทุน (Hybrid Scam) เป็นนโยบายเร่งด่วนของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เนื่องจากเป็นปัญหาที่สร้างความเสียหายให้ประชาชนอย่างมาก มอบหมายให้กระทรวงดิจิทัลฯและ ตร.ร่วมกันหามาตรการป้องกันและปราบปรามอย่างจริงจังต่อเนื่อง ประชาชนแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วน บช. สอท.1441 หรือศูนย์ ศปอส.ตร. 08-1866-3000 ผู้เสียหายสามารถแจ้งความผ่านออนไลน์ที่ www.thaipoliceonline.com นอกจากนี้ยังจัดทำรูปแบบแผนประทุษกรรมของคนร้ายเพื่อให้ประชาชนรับรู้ติดตามได้ที่ www.pctpr.police.go.th