บอริส จอห์นสัน ยืนยันจะไม่ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หลังจากมีรัฐมนตรีและผู้ช่วยหลายคนลาออกเพื่อแสดงความต่อต้าน นอกจากนั้นเขายังปลดรัฐมนตรีคนสำคัญที่เรียกร้องให้เขาลาออกด้วย

สำนักข่าว บีบีซี รายงานในวันพุธที่ 6 ก.ค. 2565 ว่า บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรยังคงขัดขืนกระแสเรียกร้องจากภายในรัฐบาลที่ต้องการให้เขาลาออก โดยยืนยันว่าจะอยู่ในตำแหน่งต่อไป เนื่องจากไม่ใช่ความรับผิดชอบของเขาที่จะต้องไป และคงไม่ถูกต้องที่เขาจะก้าวเดินออกมาท่ามกลางแรงกดดันทางเศรษฐกิจและสงครามในยูเครน

กระแสต่อต้านนายจอห์นสันเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ หลังเกิดกรณีอื้อฉาว ‘ปาร์ตี้เกต’ ซึ่งนายจอห์นสันถูกแฉว่า เขากับสมาชิกรัฐบาลจัดงานเลี้ยงที่สำนักงานนายกรัฐมนตรีละเมิดกฎล็อกดาวน์โควิด-19 จนโดนลงมติไม่ไว้วางใจเมื่อ 6 มิ.ย. แต่รอดมาได้ นอกจากนั้นยังเกิดความขัดแย้งเรื่องที่นายจอห์นสันแต่งตั้ง นายคริส พินเชอร์ เป็นรองประธานวิปรัฐบาลเมื่อช่วงต้นปี ทั้งที่เคยถูกไล่ออกจากตำแหน่งไปแล้ว และล่าสุดเขาก็ถูกไล่ออกอีกครั้งจากการเมาแล้วล่วงละเมิดทางเพศ

ประเด็นดังกล่าวทำให้ นายริชิ ซูนัค รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง และนายซาจิด จาวิด รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา และการแยกทางกับรัฐบาลของทั้งคู่ทำให้เกิดการลาออกตามมาอีกมากมาย โดยตอนนี้ ส.ส.ฝั่งรัฐบาลลาออกไปแล้ว 1 ใน 5

ในวันพุธ นายจอห์นสันยังสั่งปลด นายไมเคิล โกฟ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นสมาชิกอาวุโสและยาวนานของพรรคอนุรักษนิยมออกจากตำแหน่ง หลังนายโกฟร่วมเรียกร้องให้นายจอห์นสันลาออก แต่การปลดนายโกฟกลับทำให้รอยร้าวลึกขึ้นเรื่อยๆ ผู้ช่วยของนายจอห์นสันอีก 3 คน ได้แก่ แดนนี ครูเกอร์, เจมส์ ดาลี และ เดวิด มุนเดลล์ ก็ยื่นหนังสือขอลาออก

...

ไม่นานหลังจากนั้น นายไซมอน ฮาร์ต รัฐมนตรีว่าการกิจการเวลส์ ก็ยื่นหนังสือลาออก โดยให้เหตุผลว่าเขาไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว เขาและเพื่อนร่วมงานพยายามทำทุกอย่างเพื่อช่วยนายจอห์นสันแล้ว แต่ในที่สุดก็มาถึงจุดที่เป็นไปไม่ได้ ต่อมาในคืนวันพุธ นายเอ็ดเวิร์ด อาร์การ์ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งนายจอห์นสันแต่งตั้งก่อนที่ไวรัสโควิด-19 จะเริ่มระบาดเมื่อปี 2562 ก็ยื่นหนังสือลาออก

การลาออกของนายอาร์การ์ทำให้ตอนนี้จำนวนรัฐมนตรีและผู้ช่วยของนายจอห์นสันที่ออกจากตำแหน่งเพิ่มขึ้นเป็น 44 คนแล้ว.