ศาลสูงสุดสหรัฐฯ ตัดสินจำกัดอำนาจของสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมสหรัฐฯ ไม่ให้ออกข้อบังคับเบ็ดเสร็จ เพื่อควบคุมการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

สำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า ผู้พิพากษาศาลสูงสุดสหรัฐฯ ลงมติด้วยคะแนนเสียง 6 ต่อ 3 เสียง ตัดสิน ไม่ให้สำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อม (EPA) ออกข้อบังคับเบ็ดเสร็จตามกฎหมาย ‘อากาศสะอาด’ (Clean Air Act) เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนจากโรงงานไฟฟ้าพลังงานถ่านหินและก๊าซที่มีอยู่แล้ว

คำตัดสินดังกล่าวนับเป็นการจำกัดอำนาจของ EPA ซึ่งส่งผลกระทบต่อแผนลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อควบคุมภาวะโลกร้อนของรัฐบาลประธานาธิบดี โจ ไบเดน อย่างมาก

นายไบเดนกล่าวว่า นี่เป็นคำตัดสินที่น่าเสียใจอีกครั้ง ที่มีเป้าหมายเพื่อพาประเทศของเราก้าวถอยหลัง “ในขณะที่คำตัดสินนี้เสี่ยงสร้างความเสียหายต่อความมาตรกของประเทศ ในการรักษาอากาศของเราให้สะอาด และต้องสู้กับภาวะสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง ผมจะไม่หยุดใช้อำนาจตามกฎหมายของผมในการปกป้องสาธารณสุขและรับมือวิกฤติโลกร้อน”

ประธานาธิบดีสหรัฐฯ บอกอีกว่า ตอนนี้ทีมกฎหมายของเขากำลังทำงานร่วมกับกระทรวงยุติธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อทบทวนคำตัดสินของศาลสูงสุด และหาทางภายใต้กฎหมายกลางเพื่อปกป้องประเทศจากมลภาวะ รวมถึงก๊าซเรือนกระจกที่ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ

ทั้งนี้ EPA ถูกฟ้องร้องที่โดยรัฐเวสต์ เวอร์จิเนีย ในฐานะตัวแทนของอีก 18 รัฐซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นฐานของรีพับลิกัน กับบริษัทถ่านหินรายใหญ่ของประเทศหลายแห่ง โดยพวกเขาขอให้ศาลตัดสินว่า EPA มีอำนาจตรวจสอบการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากภาคพลังงานทั่วทั้งรัฐ หรือแค่แต่ละโรงงานกันแน่ และผู้พิพากษาศาลสูงสุด 6 คนซึ่งมาจากพรรครีพับลิกันทั้งหมด ก็ตัดสินเข้าข้างฝ่ายโจทก์

...

คำตัดสินนี้นอกจากจะลดอำนาจของ EPA แล้ว นักวิเคราะห์ยังเชื่อว่ามันจะมีผลมากกว่านั้น เพราะมันทำให้เกิดคำถามทางกฎหมายตามมา เกี่ยวกับการตัดสินใจใหญ่ๆ ของหน่วยงานรัฐอื่นๆ ซึ่งศาลสูงสุดเคยตั้งข้อกังขาในขอบเขตอำนาจตรวจสอบของหน่วยงานรัฐด้วย