(ภาพจาก Facebook / Jerry Yuen)

พ่อชาวฮ่องกงซึ่งต้องจ่ายเงินกว่า 1.4 แสนบาท เป็นค่าเสียหายหลังลูกของเขาถูกกล่าวหาว่า ชนหุ่นเทเลทับบียักษ์ล้มแตก ได้รับเงินคืนจากร้านแล้ว หลังเกิดกระแสบนโลกออนไลน์ว่าเป็นความผิดของเด็กจริงหรือไม่

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ชายชาวฮ่องกงแซ่ เฉิง ต้องจ่ายเงินกว่า 33,600 ดอลลาร์ฮ่องกง (ราว 1.45 แสนบาท) เพื่อเป็นค่าเสียหายหลังลูกชายวัย 5 ขวบของเขาถูกกล่าวหาว่า ชนหุ่นตัวการ์ตูนเทเลทับบีสีทองสูง 1.8 ม. ล้มจนแตก ขณะเดินเที่ยวที่ร้าน KKPlus ของบริษัท Kidsland ในห้างสรรพสินค้า Langham Place ในเขตมงก๊ก เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

เจ้าหน้าที่ของร้านอ้างว่า เด็กเตะหุ่นจนล้ม ซึ่งในตอนนั้นผู้เป็นพ่อเชื่อคำพูดของเจ้าหน้าที่ และตกลงจ่ายค่าหุ่นตัวนี้ซึ่งมีราคาเต็มที่ 52,800 ดอลลาร์ฮ่องกง (ราว 2.29 แสนบาท) แต่ทางร้านบอกให้จ่ายเพียง 33,600 ดอลลาร์ฮ่องกง อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ดังกล่าวถูกบันทึกภาพเอาไว้ได้ และถูกนำไปเผยแพร่บนโลกออนไลน์จนกลายเป็นไวรัล หลังคลิปแสดงให้เห็นว่า เด็กพังหุ่นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แล้วหุ่นก็ล้มลงไป

เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์บนโลกออนไลน์ โดยประชาชนกล่าวหา KKPlus ว่าหลอกลวงพ่อของเด็ก และตั้งคำถามว่า เหตุใดจึงไม่หาอะไรมากั้นหุ่นราคาแพงขนาดนี้ ไม่ให้คนเข้าใกล้ ขณะที่มีบางกระแสตำหนิพ่อแม่เด็กที่ไม่ติดตามดูแลลูกของตัวเองอย่างใกล้ชิด

KKPlus โพสต์แถลงการณ์ บนเฟซบุ๊กของตัวเองเมื่อช่วงเช้าวันอังคารที่ 24 พ.ค. 2565 พยายามอธิบายว่า หุ่นตัวนี้ตั้งอยู่ที่เดิมมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีก่อนแล้ว และไม่ได้สร้างความไม่สะดวกสบายแก่ลูกค้าแต่อย่างใด และทางบริษัทจะใช้ประสบการณ์นี้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์คล้ายกันอีกในอนาคต

...

แต่แถลงการณ์ดังกล่าวถูกลบออกไปในเวลาประมาณ 11.00 น. และโฆษกของบริษัท Kidsland ซึ่งเป็นเจ้าของร้าน KKPlus และเป็นบริษัทค้าปลีกของเล่นรายใหญ่ที่สุดของจีน ออกแถลงการณ์ขอโทษที่สร้างความไม่สะดวกแก่ครอบครัวของเด็ก พร้อมสัญญาว่าจะคืนเงินทั้งหมดให้ ขณะที่ผู้จัดการของ KKPlus ยอมรับว่า ทางร้านไม่มีมาตรการป้องกันเพียงพอ และว่าพวกเขานำของเล่นที่มีความสูงเกิน 1 เมตรออกทั้งหมดแล้ว

ที่มา : hongkongfp