ชาวบ้านในกรุงปักกิ่งของจีน แห่ไปซื้อเสบียงอาหารที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต เพื่อกักตุนเอาไว้ หลังจากมีข่าวลือว่าทางการเตรียมล็อกดาวน์ ขณะเจ้าหน้าที่ยืนยันไม่มีล็อกดาวน์แต่จะตรวจโรคครั้งใหญ่
เว็บไซต์ข่าว แชนเนลนิวส์เอเชีย รายงานว่า ชาวกรุงปักกิ่งแห่แหนไปซุปเปอร์มาร์เก็ตในวันพฤหัสบดีที่ 12 พ.ค. 2565 เพื่อซื้อเสบียงกักตุนเอาไว้ หลังจากเกิดข่าวลือเผยแพร่บนโลกออนไลน์ว่า ทางการกำลังจะบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ ห้ามพวกเขาออกจากบ้าน เพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 ในเมืองหลวงแห่งนี้
ปัจจุบันจีนเป็นชาติเศรษฐกิจใหญ่แห่งสุดท้ายที่ยังยึดมั่นในนโยบายทำให้โควิดเป็นศูนย์ และยังบังคับใช้มาตรการควบคุมสุดเข้มงวดที่สุดในโลก ชาวนครเซี่ยงไฮ้เกือบ 25 ล้านคนยังอยู่ภายใต้การล็อกดาวน์ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อใด ขณะที่กรุงปักกิ่งเริ่มใช้มาตรการเข้มงวดขึ้น เช่นระงับบริการรถไฟใต้ดิน และขอให้ประชาชนทำงานจากที่บ้าน
...
อย่างไรก็ตาม จนถึงตอนนี้ยังไม่มีการประกาศล็อกดาวน์ในกรุงปักกิ่งแต่อย่างใด แต่เจ้าหน้าที่ยืนยันว่า พวกเขากำลังจะเริ่มการตรวจเชื้อโควิดเป็นวงกว้างเพิ่มอีก 3 รอบ ใน 12 เขตหลักของกรุงปักกิ่ง และแนะนำให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้าน รวมทั้งลดการเดินทางในช่วงเวลาดังกล่าว
ทั้งนี้ ชาวกรุงปักกิ่งหลายคนให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว เอเอฟพี เช่นนาย ชุ่ย ซิน อายุ 41 ปี เผยว่า เขามาที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตท้องถิ่นหลังจากอ่านข่าวลือบนโลกออนไลน์ว่า เจ้าหน้าที่อาจกักคนเอาไว้ในบ้าน “ทุกคนกำลังกักตุนเสบียง ผมจะไม่เป็นไรไม่ว่าผมจะต้องอยู่แต่ในบ้าน 3 วัน หรือ 7 วันก็ตาม” นายชุ่ยกล่าว
ด้านเจ้าหน้าที่กรุงปักกิ่งพยายามลดความแตกตื่นของผู้คนด้วยการยืนยันในงานแถลงข่าวประจำวันว่า การล็อกดาวน์หรือมาตรการที่เรียว่า ช่วงเวลาเงียบสงบ เป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น ไม่มีความจำเป็นต้องกักตุนเสบียงใดๆ แต่ก็ไม่อาจคลายความกังวลของชาวบ้านได้