นายลี เซียนลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ กล่าวปราศรัยในวันแรงงานเมื่อวันที่ 1 พ.ค. เตือนประชาชนให้เตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทายทางเศรษฐกิจมากขึ้น ผลจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19 และการสู้รบระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ทำให้สถานการณ์เลวร้ายมากขึ้น ทำให้อัตราเงินเฟ้อที่สูงอยู่แล้วพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 14 ปี ค่าครองชีพเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ประกาศแพ็กเกจสนับสนุนครัวเรือนมูลค่า 560 ล้านดอลลาร์ ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ขณะเดียวกัน ธนาคารกลางสิงคโปร์กำลังปรับนโยบายการเงินอย่างรัดกุมเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ
ผู้นำสิงคโปร์ยังเตือนว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจทั่วโลกจะลดลงและโลกอาจเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยภายใน 2 ปีข้างหน้า และเผยว่ากลยุทธ์ของสิงคโปร์จะต้องเปิดกว้างและทำให้เศรษฐกิจแข็งแกร่งและยืดหยุ่นมากขึ้น ต้องเร่งพัฒนาความสามารถใหม่ๆ ให้เป็นเศรษฐกิจที่มีการแข่งขันมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม การเติบโตทางเศรษฐกิจต้องควบคู่ไปกับความสามัคคีทั้งทางสังคมและการเมือง ผู้นำสิงคโปร์ยังจะผลักดันการต่อต้านการทวนกระแสโลกาภิวัตน์ และจะพูดคุยเพื่อส่งเสริมให้สหรัฐฯและจีนหันมาร่วมมือกันอย่างสร้างสรรค์.