ในการเจรจาการค้าระหว่างกรมการค้าระหว่างประเทศ กับรัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนาม เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ตัวแทนไทยได้เสนอประเด็นที่น่าสนใจแลกเปลี่ยนกลับไป หลังฝ่ายเวียดนามขอการสนับสนุนทั้งเรื่องดุลการค้า การส่งออกผลไม้ ลดขั้นตอนกระบวนการ และการออกโรดโชว์ที่ประเทศไทย
โดยประการแรกไทยขอให้เวียดนามยกเลิกมาตรการระงับนำเข้าสินค้าไทย 3 อย่าง คือเนื้อไก่ เงาะ และมะม่วง รวมถึงเรื่องการส่งออกยา ที่เวียดนามได้กำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติมขึ้นมาเกินข้อตกลงอาเซียน
และการอนุมัติการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์หรือจีไอ (การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา) ของไทยในต่างประเทศ ซึ่งไทยขอขึ้นทะเบียนไว้ใน 4 ประเทศ จีน ญี่ปุ่น มาเลเซีย และเวียดนาม โดยสิ่งที่เราขอความคุ้มครองจากเวียดนามคือ ลำไยอบแห้งเนื้อสีทองลำพูน
ประการต่อมา อยากให้เวียดนามช่วยโปรโมตประชาสัมพันธ์งานแสดงสินค้าไทยในเวียดนาม “มินิ ไทยแลนด์ วีก 2022” เมืองกว่างนิงห์ และเมืองเกิ่นเทอ ช่วงกลางเดือน มิ.ย. ระหว่างวันที่ 16-19 และ 17-19 ตามลำดับ เพื่อเพิ่มมูลค้าทางการค้าระหว่างกัน
พร้อมมีการประเมินว่า สินค้าบ้านเราที่ได้รับความสนใจ อาทิ อาหารและผลไม้แปรรูป เครื่องดื่ม ของขบเคี้ยว ซอสปรุงรส ไปจนถึงผลิตภัณฑ์ความงาม เครื่องสำอาง สปา ของบำรุงผิว แชมพู (ซึ่งของเหล่านี้ จำได้ขึ้นใจเป็นการส่วนตัว ว่าเพื่อนนักข่าวเวียดนามเหมาไปหลายลังตอนมาไทย)
และประการสำคัญ ที่เหมาะสมกับโลกยุคซื้อขายทางออนไลน์ อยากให้เวียดนามช่วยสนับสนุนให้ไทยสามารถเข้าไปร่วมแจม ใช้แพลตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์ในเวียดนามได้ เพื่อเป็นช่องทางกระจายสินค้าสู่ชาวเวียดนามโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์ม ช้อปปี้ ลาซาด้า รวมถึงแพลตฟอร์มค้าขายออนไลน์ยอดนิยมของเวียดนามเอง คือ ทิกิ (TIKI) และ เซนโด (Sendo)
...
ประเด็นทั้งหมดนี้ นายเหวียน ห่ง เยียน รมว.เวียดนาม พร้อมจะพิจารณา สนับสนุน และประสานงานต่อไป โดยเฉพาะเรื่องแพลต ฟอร์มออนไลน์ ที่เสริมว่าไทยร่วมขายในเวียดนามแล้ว เวียดนามก็ขอร่วมขายผ่านแพลตฟอร์มในไทยด้วยเช่นกัน.
ตุ๊ ปากเกร็ด