องค์การนิรโทษกรรมสากล ออกรายงานประจำปีว่าด้วยความเหลื่อมล้ำของโลกช่วงวิกฤติโควิด-19 พบว่า ประเทศร่ำรวยกระจายวัคซีนแบบไม่ยุติธรรม และแบ่งแยก บริษัทยายักษ์เตรียมฟันกำไรกว่า 4.3 ล้านล้านบาท
เมื่อวันที่ 28 มี.ค. แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล (Amnesty International) หรือองค์การนิรโทษกรรมสากล ออกรายงานประจำปี ว่าด้วยการวิเคราะห์เจาะลึกถึงความเหลื่อมล้ำของโลกในปี 2564 โดยมีเนื้อหากล่าวถึงความไม่เท่าเทียมทางด้านการกระจายวัคซีนต้านโควิด-19 ในช่วงวิกฤติการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้น
รายงานระบุว่า การกระจายวัคซีนเต็มไปด้วยความไม่ยุติธรรม และแบ่งแยก ส่งผลให้มีชาวแอฟริกันเพียง 8% ของจำนวนประชากรทั้งหมดประมาณ 1,300 ล้านคนเท่านั้นที่ได้รับวัคซีนต้านโควิด ซึ่งเป็นตัวเลขที่ห่างไกลจากเป้าหมาย 40% ขององค์การอนามัยโลก
รายงานยังระบุว่า ประเทศร่ำรวยและบริษัทยักษ์ใหญ่ก็ต่างถูกครอบงำด้วยความโลภและเห็นแก่ตัวในช่วงวิกฤติโควิด-19 โดยบริษัทใหญ่เห็นแก่การกอบโกยผลกำไรจากการแพร่ระบาด โดยคาดการณ์ว่าบริษัทผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่อย่างไบโอเอ็นเทค ไฟเซอร์ และโมเดอร์นา จะมีกำไรถึง 130,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 4.3 ล้านล้านบาท ในช่วงปลายปี 2565 ขณะที่บรรดาประเทศไม่สามารถช่วยบรรเทาหนี้ให้แก่ประเทศยากจนเพื่อช่วยกันพยุงให้เกิดการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจากผลกระทบของโควิดได้
...
นอกจากนี้ในรายงานยังระบุว่า มีการโจมตีสื่อมวลชน นักเคลื่อนไหว และนักปกป้องสิทธิมนุษยชน โดยรัฐบาลใช้เงื่อนไขการแพร่ระบาดของโควิด-19 มาเล่นงาน เอาผิดและกดดันผู้ประท้วง.