ในที่สุด สหรัฐฯ และพันธมิตร สหภาพยุโรป เยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี อังกฤษ และ แคนาดา ก็เห็นพ้องต้องกัน ประกาศคว่ำบาตรรัสเซียระลอกใหม่ ด้วยมาตรการที่รุนแรงที่สุด ตัดรัสเซียออกจากเครือข่ายระบบโอนเงินโลก หรือ SWIFT เมื่อเย็นวันเสาร์ หลังจากที่รีรอการใช้มาตรการนี้ในวันก่อน เพราะการใช้มาตรการรุนแรงทางการเงินนี้ ไม่เพียงรัสเซียที่จะได้รับผลกระทบรุนแรง สหรัฐฯ ยุโรป และประเทศอื่นทั่วโลกที่ค้าขายกับรัสเซียก็จะได้รับผลกระทบด้วย การตัดรัสเซียออกจาก SWIFT ครั้งนี้ นายบรูโน เลอ แมร์ รัฐมนตรีคลังฝรั่งเศส กล่าวว่า เหมือนอาวุธนิวเคลียร์ทางการเงิน (financial nuclear weapon)
แต่การคว่ำบาตรรัสเซียออกจากระบบโอนเงินโลก SWIFT ครั้งนี้ ไม่ได้ใช้กับธนาคารรัสเซียทั้งหมด แต่ใช้กับธนาคารที่สหรัฐฯและสหภาพยุโรปกำหนดเท่านั้น ซึ่งจะประกาศในวันสองวันนี้
ทำเนียบขาวและพันธมิตรแถลงว่า การตัดรัสเซียออกจากระบบ SWIFT มีเป้าหมาย เพื่อตัดสถาบันการเงินรัสเซียออกจากระบบการแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ โดดเดี่ยวรัสเซียจากระบบการเงินระหว่างประเทศ และจากเศรษฐกิจของพวกเรา ซึ่งจะ สร้างผลกระทบในวงกว้างต่อเศรษฐกิจรัสเซียในทั่วโลก รวมทั้ง การจำกัดการเข้าถึงกองทุนสำรองระหว่างประเทศ (IMF) เพื่อป้องกันไม่ให้ ธนาคารกลางรัสเซีย ใช้เงินทุนสำรองระหว่างประเทศที่มีอยู่ 630,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มาใช้บรรเทาผลกระทบจากการแซงก์ชัน โดยจะมีการใช้มาตรการล่าสุดนี้ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
SWIFT คืออะไร? เว็บไซต์การเงินธนาคาร อธิบายว่า SWIFT (Society for Worldwide Interbank Financial Telecom munication) เป็นเครือข่ายการเงินระดับโลกที่ช่วยให้การโอนเงินข้ามแดนเป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็ว ก่อตั้งในปี 1973 สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ เบลเยียม ดูแลโดย ธนาคารแห่งชาติเบลเยียม มีธนาคารและสถาบันการเงินกว่า 2 พันแห่งเป็นเจ้าของ มีการเชื่อมโยงโอนเงินระหว่างธนาคารและสถาบันการเงินกว่า 11,000 แห่ง ในกว่า 200 ประเทศทั่วโลก ไฟแนนเชียลไทม์ระบุว่า ปี 2020 มีการส่งข้อความทางการเงินมากกว่า 42 ล้านข้อความต่อวัน มีการโอนเงินวันละหลายล้านล้านดอลลาร์ และ รัสเซียต้องพึ่งพาระบบการโอนเงินของ SWIFT มากกว่า 1.5%
...
เว็บไซต์การเงินธนาคาร ระบุว่า หากมีการคว่ำบาตรรัสเซียจาก SWIFT เป็นการตัดรายได้ของรัฐบาลรัสเซียโดยตรง จากรายได้ด้านพลังงานและการเกษตร ทำให้ธนาคารต้องจัดการกันเองโดยตรงซึ่งจะทำให้การโอนเงินล่าช้าและเพิ่มค่าใช้จ่าย
ประเทศยุโรปที่จะได้รับผลกระทบรุนแรงจากมาตรการนี้ ก็คือ เยอรมนี ซึ่งเป็นลูกค้าก๊าซและนํ้ามันรายใหญ่ของรัสเซีย ทำให้บริษัทรัสเซียและเยอรมนีอาจต้องหาวิธีอื่นในการชำระเงิน หรืออีกทางหนึ่ง รัสเซียอาจจะใช้เส้นทางชำระเงินผ่านประเทศที่ไม่มีการคว่ำบาตรเช่น จีน ซึ่งมีระบบการชำระเงินของตนเอง
ก็ต้องรอดูต่อไป การคว่ำบาตรขั้นรุนแรง ตัดรัสเซียออกจากระบบโอนเงินข้ามชาติ SWIFT และไอเอ็มเอฟ จะทำให้รัสเซียยอมจำนนถอนทหารออกจากยูเครนหรือไม่
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เช้าวันอาทิตย์ ยูเครนยังสามารถรักษากรุงเคียฟ เมืองหลวงเอาไว้ได้ ท่ามกลางเสียงระเบิดเสียงปืนที่สู้รบกันตลอดทั้งคืน แต่แนวรบด้านอื่น กองทัพรัสเซียได้ยึดเมืองโนวา คาเคฟกา ทางตอนใต้ของยูเครนไว้ได้แล้ว และปิดล้อมอีกหลายเมือง และกองทัพรัสเซียได้เคลื่อนพลเข้าสู่ใจกลาง เมืองคาร์คอฟ เมืองใหญ่อันดับ 2 ของยูเครนที่มีประชากร 1.5 ล้านคน ทางตะวันออกเฉียงเหนือ ห่างจากกรุงเคียฟเพียง 400 กม.เท่านั้น
ก่อนปิดต้นฉบับนี้บ่ายวันอาทิตย์ นายดิมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซีย แถลงว่า รัสเซียได้ส่งตัวแทนไปเจรจากับตัวแทนยูเครน ที่ เมืองกอเมล ประเทศเบลารุส แล้ว กำลังรอตัวแทนจากยูเครน ซึ่งก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีเซเลนสกี ผู้นำยูเครน ได้แถลงว่า พร้อมจะเจรจากับรัสเซีย จบที่โต๊ะเจรจาดีกว่าจบที่สงครามครับ.
“ลม เปลี่ยนทิศ”