หลังจากเปิดให้ดาวน์โหลดทั้งระบบปฏิบัติการ iOS-Android เมื่ออาทิตย์ก่อน แอปพลิเคชัน “กระเป๋าเงินหยวนดิจิทัล” (e-CNY) เวอร์ชัน “นำร่อง” ของจีนกลายเป็นหนึ่งในแอปที่มีการดาวน์โหลดมากที่สุดของประเทศภายในเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์หลังจากเปิดตัว ส่งสัญญาณเชิงบวกให้กับความพยายามของจีนในการส่งเสริมสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางจีน (CBDC)

ที่ผ่านมาจีนเป็นประเทศแรกๆ ที่ศึกษาการใช้สกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง หรือที่เรียกกันว่า “หยวนดิจิทัล” มาตั้งแต่ปี 2557 และเริ่มทดลองการใช้งานนำร่องในหลายเมืองใหญ่มาตั้งแต่กลางปี 2563 เป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของระบบการชำระเงินรายย่อยที่ปลอดภัยมากกว่า มีประสิทธิภาพ ใช้งานได้อย่างทั่วถึง ทั้งประชาชนทั่วไปและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ตอบสนองการเติบโตของเทคโนโลยี และเศรษฐกิจดิจิทัลที่รุดหน้าอย่างก้าวกระโดด รวมทั้งปูทางสู่การพัฒนาระบบการชำระเงินข้ามพรมแดนต่อไปในอนาคตอันใกล้

ธนาคารกลางของจีนยังระบุว่าผู้ใช้แอปพลิเคชัน e-CNY สามารถบริหารจัดการกระเป๋าเงินส่วนบุคคล ตลอดจนแลกเปลี่ยน และทำธุรกรรมทางการเงินต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นการจับจ่ายใช้สอยต่างๆ ซื้อตั๋วระบบขนส่งสาธารณะ รวมไปถึงใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยว โดยในระยะนำร่องที่ยังอยู่ในขั้นตอนการทดสอบและพัฒนานั้นจะ สามารถใช้ได้ใน 10 เมือง และอีก 1 พื้นที่ ซึ่งประกอบด้วยฉางซา เซี่ยงไฮ้ เซินเจิ้น เซียงอัน ซีอาน เฉิงตู ไห่หนาน ชิงเต่า ซูโจว ต้าเหลียน และพื้นที่จัดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวในกรุงปักกิ่ง ซึ่งผู้เข้าร่วมการแข่งขันจากต่างประเทศก็ใช้งานได้โดยไม่ต้องมีบัญชีธนาคารของจีน

นอกจากนี้ การใช้ “หยวนดิจิทัล” ยังไม่จำกัดอยู่เฉพาะในแอป e-CNY เท่านั้น ปัจจุบันมีธนาคารพาณิชย์หลายแห่งในจีนรองรับการใช้งาน ขณะที่ยักษ์ใหญ่ในบริการธุรกรรมทางการเงินออนไลน์ อย่าง WeChat Pay ของเทนเซ็นต์ ที่มีผู้ใช้เกิน 1,000 ล้านคนและ Alipay ของ แอนท์ กรุ๊ป บริษัทในเครือของอาลีบาบา ยังประกาศเป็นพันธมิตร สามารถใช้หยวนดิจิทัลได้ ก่อนหน้านี้ธนาคารกลางจีนเผยว่ามีผู้เปิดบัญชีหยวนดิจิทัลเมื่อสิ้นเดือน ต.ค.ปีที่แล้วสูงถึง 140 ล้านคน แม้จะเป็นตัวเลขที่น่าประทับใจแต่ยังนับว่าห่างไกลจากเจ้าตลาดในวงการอยู่มาก จึงนับเป็นโจทย์ที่ต้องตีให้แตกว่าจะใช้กลยุทธ์ใดดึงดูดให้ประชาชนหันมาใช้หยวนดิจิทัลให้มากขึ้นในอนาคต.

...

อมรดา พงศ์อุทัย