เมื่อ 6 ต.ค. ราชบัณฑิตยสภาด้านวิทยาศาสตร์แห่งสวีเดน ประกาศมอบรางวัลโนเบลสาขาเคมีประจำปีนี้แก่เบนจามิน ลิสต์ นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมัน ผู้อำนวยการสถาบันแมกซ์ พลังค์ ในเมืองมึลไฮม์ เยอรมนี และเดวิด แมคมิลลาน ศาสตราจารย์ชาวอังกฤษ มหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน สหรัฐฯ สำหรับการพัฒนาเคมีอินทรีย์แบบไม่สมมาตร ซึ่งส่งผลอย่างมากต่อการวิจัยด้านเภสัชกรรม และทำให้เคมีเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
งานวิจัยและอุตสาหกรรมจำนวนมากพึ่งความสามารถในการสร้างโมเลกุล ที่สามารถพัฒนาวัสดุที่ทั้งยืดหยุ่นและทนทาน เก็บพลังงานไว้ในแบตเตอรี่ หรือแม้แต่ยับยั้งการลุกลามของโรค ซึ่งต้องใช้ตัวเร่งปฏิกิริยา ขณะที่ร่างกายของมนุษย์ก็มีตัวเร่งปฏิกิริยามากมายในรูปของเอนไซม์ซึ่งจำเป็นต่อชีวิต ซึ่งแต่ก่อนตามหลักการตัวเร่งปฏิกิริยาหลักๆจะมีเพียง 2 รูปแบบ คือตัวเร่งปฏิกิริยาทางเคมี อย่างโลหะ และตัวเร่งปฏิกิริยาทางชีวภาพ อย่างเอนไซม์ แต่ลิสต์ และแมคมิลลาน พัฒนาตัวเร่งปฏิกิริยาชนิดที่ 3 เรียกว่าเคมีอินทรีย์แบบอสมมาตรจากโมเลกุลชีวภาพขนาดเล็กในปี 2543 ซึ่งเป็นแนวคิดที่ทั้งเรียบง่ายและแยบยล กระบวนการเคมีอินทรีย์แบบอสมมาตรถูกพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว และได้แสดงให้เห็นว่าสามารถนำมาใช้สร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ได้ตั้งแต่ยาใหม่ๆ ไปจนถึงโมเลกุลที่สามารถจับแสงในเซลล์แสงอาทิตย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น.