องค์การอนามัยโลกแสดงความกังวลสถานการณ์โควิด-19 หลังเวชภัณฑ์เหลือใช้เพียงอีกแค่ราว 1 สัปดาห์ เหตุจากสนามบินกรุงคาบูลยังถูกปิดกั้นโดยกลุ่มตาลีบัน

ริชาร์ด เบรนแนน ผู้อำนวยการฉุกเฉินระดับภูมิภาคขององค์การอนามัยโลกแถลงหลังจากประชุมสรุปทางออนไลน์ แสดงความกังวลต่อสถานการณ์ด้านการควบคุมโรคในอัฟกานิสถาน เนื่องจากสนามบินกรุงคาบูลยังคงถูกปิดกั้นโดยกลุ่มตาลีบัน ทำให้การขนส่งเวชภัณฑ์เข้ามาเพิ่มเติมไม่สามารถทำได้ โดยเวชภัณฑ์ที่มีอยู่ในเวลานี้คาดว่าจะเพียงพอใช้เพียงแค่อีก 1 สัปดาห์เท่านั้น นอกจากนี้ยังแสดงความกังวลว่า สถานการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในเวลานี้ อาจจะทำให้การระบาดของโควิด-19 กลับมาระบาดรุนแรงอีกครั้ง เนื่องจากการตรวจคัดกรองโรคที่ลดลงไปถึง 77 เปอร์เซ็นต์ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่การฉีดวัคซีนก็ลดลงไปด้วย

นายอาเหม็ด อัล มันธารี เจ้าหน้าที่อาวุโสประจำภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออกขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ขณะนี้สถานพยาบาลในอัฟกานิสถาน 95 เปอร์เซ็นต์ยังคงเปิดทำการอยู่ แต่เจ้าหน้าที่ที่เป็นผู้หญิงยังไม่กล้าเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ ขณะที่คนไข้ที่เป็นผู้หญิงก็ไม่กล้าออกจากบ้านเช่นกัน โดยองค์การอนามัยโลกเร่งส่งเวชภัณฑ์ช่วยชีวิตไปยังสถานพยาบาลต่างๆ ที่เป็นพันธมิตรในกรุงคาบูลโดยเร็วที่สุด เฉพาะเมื่อวานนี้มีการกระจายเวชภัณฑ์ถึง 70 เปอร์เซ็นต์ที่มีอยู่ไปยังโรงพยาบาลต่างๆ แล้ว โดยองค์การอนามัยโลกเองก็เหลือเวชภัณฑ์เพียงพอที่จะใช้เพียงแค่อีก 1 สัปดาห์เท่านั้น โดยเวชภัณฑ์ต่างๆ มากกว่า 500 ตันที่ถูกส่งมาจากดูไบ รวมถึงอุปกรณ์ในการผ่าตัดยังติดค้างนำเข้ามาไม่ได้ เนื่องจากการคุมเข้มสนามบินกรุงคาบูลในเวลานี้

...

นายเบรนแนนระบุว่า WHO อยู่ระหว่างขอความร่วมมือไปยังประเทศต่างๆ ที่จะช่วยขนส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์เข้าไปยังอัฟกานิสถาน โดยมีการเจรจากับ 3-4 ประเทศ และหวังว่าจะมีความคืบหน้าในสัปดาห์นี้ ขณะเดียวกันก็เห็นสัญญาณที่ดี เพราะทราบมาว่า ทางกลุ่มตาลีบันยังคงต้องการให้องค์การสหประชาชาติประจำอยู่ในอัฟกานิสถาน และยังคงต้องการความช่วยเหลือด้านบริการสาธารณสุขต่อไป จึงคาดหมายว่า องค์กรน่าจะสามารถกลับมาดำเนินการได้ตามปกติในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า โดยขณะนี้มีชาวอัฟกานิสถานมากกว่า 18 ล้านคน เกินครึ่งของประชากรทั้งประเทศที่ยังคงต้องการความช่วยเหลือด้านสิทธิมนุษยชนเพื่อให้อยู่รอดในสถานการณ์เช่นนี้ และคาดว่าความต้องการจะยิ่งเพิ่มขึ้นทุกวันๆ.