องค์การอาหารและยาสหรัฐฯ เห็นชอบให้มีการฉีดวัคซีนเข็ม 3 เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันเฉพาะกับกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง แต่ยังไม่อนุมัติใช้ในกลุ่มประชาชนทั่วไป

กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง ที่อยู่ในข่ายที่จะได้รับวัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกันเข็มที่ 3 คือกลุ่มที่ถูกจัดว่ามีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง ได้แก่ กลุ่มผู้ที่มีการเปลี่ยนถ่ายอวัยวะ กลุ่มผู้ป่วยมะเร็ง และกลุ่มโรคร้ายแรงอื่นๆ ที่มีอยู่นับล้านคนในประเทศ แต่ยืนยันยังไม่จำเป็นต้องฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิเข็ม 3 ให้แก่กลุ่มประชาชนทั่วไป โดยวัคซีนที่จะนำมาใช้กระตุ้นภูมิ จะเป็นวัคซีนจากทั้งค่ายไฟเซอร์ และโมเดอร์นา

ขณะเดียวกันก็ยังมีคำเตือนมายังประชาชนทั่วไปแม้จะฉีดวัคซีนแล้ว แต่อย่าให้การ์ดตก โดยยังคงต้องใช้อุปกรณ์ป้องกันต่างๆ ทั้งการสวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง ล้างมือ และหลีกเลี่ยงการเข้าไปยังสถานที่ที่มีผู้คนจำนวนมาก เพื่อช่วยป้องกันอีกทาง

ท่าทีดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่เชื้อกลายพันธุ์เดลตากำลังระบาดหนักทั่วประเทศ ทำให้จำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลและผู้เสียชีวิตมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น โดยส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ขณะที่ก่อนหน้านี้ก็มีหลายประเทศที่เริ่มฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิเข็ม 3 ให้แก่ประชาชนแล้ว ทั้งอิสราเอลและเยอรมนี หลังจากพบการระบาดของเชื้อกลายพันธุ์เดลตา

...

ขณะที่นักวิทยาศาสตร์ยังคงมีความเห็นที่แตกต่างกันในเรื่องการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันสำหรับคนทั่วไปที่ไม่ได้มีปัญหาด้านสุขภาพ เพราะยังไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่า การฉีดวัคซีนเพิ่มไปจะเกิดประโยชน์มากน้อยเพียงใด โดยก่อนหน้านี้ บริษัทไฟเซอร์ ออกมาเปิดเผยข้อมูลว่า ประสิทธิภาพของวัคซีนจะลดลงเมื่อเวลาผ่านไป โดยประสิทธิภาพของวัคซีนจะลดลงจาก 96 เปอร์เซ็นต์ เหลือเพียง 84 เปอร์เซ็นต์หลังจากรับวัคซีนโดสที่สองไปแล้วราว 4 เดือน ขณะที่บริษัทโมเดอร์นาก็ระบุว่า ผู้ที่รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว มีแนวโน้มที่จะต้องรับวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 อีก โดยเฉพาะเพื่อรับมือกับการระบาดของเชื้อกลายพันธุ์เดลตา

อย่างไรก็ตาม องค์การอนามัยโลกได้เรียกร้องให้ประเทศร่ำรวยอย่ารีบฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิให้แก่ประชาชน โดยขอให้ประวิงเวลาไปจนถึงสิ้นเดือนกันยายนนี้ เพื่อให้นำวัคซีนที่มีไปแจกจ่ายให้แก่ประเทศที่ยังขาดแคลนก่อน.