29 จังหวัด ล็อกดาวน์ถึง 18 ส.ค. นั่นคือคำตอบถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทยได้เป็นอย่างดี เมื่อต้องขยายพื้นที่ควบคุมอย่างเข้มขึ้นอีก 16 จังหวัด จากเดิม 13 จังหวัด
เพราะของเดิมเอาไม่อยู่ต้องเพิ่มกรอบควบคุม
“เดลตา” (อินเดีย) นั้นระบาดไปทั่วประเทศไทยแล้ว ไม่ใช่แค่กรุงเทพฯ หรือปริมณฑลเท่านั้น แต่มันกำลังไปทุกทิศทุกทาง
มาตรการก็คงไม่ต่างไปจากที่ประกาศใช้ไปแล้ว เพียงแต่เพิ่มบางสิ่งบางอย่างลงไป โดยเฉพาะให้เปิดร้านขายอาหารในห้างได้
แต่ต้องเป็นแบบ “ดีลิเวอรี” คือ โทร.สั่งจอง ไปสั่งที่ร้านไม่ได้ เพื่อไม่ให้เกิดการแออัด เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านอาหาร
ก็ต้องดูตัวเลขกันเป็นวันๆต่อไปอีกระยะ
หากไม่ลดลงก็ต้องปิดประเทศกันแล้ว...ไม่ใช่เปิดประเทศ
ไวรัสกลายพันธุ์ชุดนี้แรงและเร็ว ซึ่งกำลังระบาดไปทั่วโลกในอาเซียนด้วยกันกำลังเจอกันงอมพระราม
แม้แต่กัมพูชาที่ควบคุมได้ดีมาตลอดก็ต้องสั่งปิด
มาเลเซียอีกประเทศหนึ่งที่เจอหนักไม่น้อยไปกว่าไทย ซึ่งต้องใช้มาตรการเข้มงวดเช่นเดียวกัน หนัก-เบาขึ้นอยู่กับสถานการณ์
แต่ละประเทศต่างก็ต้องยึดโยงด้วยวิธีการเดียวกันคือ คนในห้ามออก-คนนอกห้ามเข้าอย่างไทยที่ก่อนหน้านี้เคยป้องกันไม่ให้คนต่างชาติเล็ดลอดเข้าไปในประเทศ
เพราะกลัวจะนำเชื้อเข้ามาแพร่ระบาด
แต่วันนี้ประเทศเหล่านี้ต่างก็กลัวว่าคนไทยจะนำเชื้อเข้าไปติดคนของเขาก็ดีแล้ว ต่างคนต่างดูแลสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ได้
แต่เนื่องจากไทยนั้นมีพื้นที่ติดต่อกันหลายประเทศ โดยเฉพาะดินแดนที่ติดต่อกันอย่างเมียนมาระยะทางยาวต่อเนื่องไม่น้อย
อีกทั้งสถานการณ์ทางการเมืองในเมียนมาก็มีปัญหา
...
ยิ่งถ้าติดเชื้อมากทุกวันนั้นและการดูแลทางการแพทย์ไม่ดีพอ ก็จะทำให้ “ชนพม่า” จะต้องติดเชื้อกันเป็นจำนวนมาก
ก็คงจะต้องหนีตายไปยังประเทศอื่นๆ
โดยเฉพาะไทยนั้นง่ายที่สุด เนื่องจากมีช่องทางผ่านเข้าไปได้ง่ายกว่าของประเทศอื่น อย่างช่องทางที่เรียกว่า “ธรรมชาติ”
นักการเมืองไทยก็ใช้ข้ามหนีไปกัมพูชาก็ทำกันมาแล้ว
แรงงานจากเมียนมาที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยนั้นมีจำนวนมากที่สุด ทั้งถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย
ที่คิดว่าไทยคือเมืองสวรรค์ของพวกเขา
ดังนั้น มาตรการควบคุมชาวเมียนมาที่หลบหนีเข้ามาน่าจะเพิ่มมากขึ้น ยิ่งรัฐบาลของเขาได้เอ่ยปากขอความช่วยเหลือจากนานาชาติ
เพื่อให้ช่วยเหลือแก้โควิด-19
นั่นแสดงว่าอาการหนักจะเอาไม่ไหวแล้ว แม้ประเทศจะปกครองด้วยรัฐบาลเผด็จการทหารก็ต้องอยู่ด้วยความเป็นจริง
คือชีวิตของ “คน” ที่ต้องรับผิดชอบ.
“สายล่อฟ้า”