กำหนดการพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพและสวดอภิธรรม ฯพณฯ อันดรีย์ เบชตา เอกอัครราชทูตอูเครนประจำประเทศไทย ณ ศาลา 1 วัดเทพศิรินทราวาส กรุงเทพฯ

1 มิถุนายน 2564 เวลา 17.00 น. พิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ เวลา 18.00 น. พิธีสวดอภิธรรม 2 และ 4 มิถุนายน 2564 เวลา 18.00 น. พิธีสวดอภิธรรม 3 มิถุนายน 2564 (งดสวดอภิธรรม) และ 5 มิถุนายน 2564 พระราชทานเพลิงศพ (รอยืนยันเวลา)

แม้จะมีพรมแดนติดกับไทยและจีนเหมือนกัน แต่ประชาชนคนพม่าและคนลาวมีความหวังต่างกันราวกับว่าอยู่คนละซีกโลก

ตั้งแต่กองทัพทำรัฐประหารเมื่อ 1 กุมภาพันธ์ 2564 พม่าก็กลายเป็นประเทศที่มีแต่การรบพุ่ง เพราะอนาคตไม่แน่นอน คนพม่าจึงแห่ไปถอนเงินจากธนาคาร คลิปที่ถูกส่งมาให้เห็นจนชินตาก็คือ ภาพของคนเข้าคิวเป็นแถวยาวรอกดเงินสดจากตู้เอทีเอ็ม เพราะต้องรอนานหลายชั่วโมง คนขนทั้งเก้าอี้ น้ำดื่ม อาหาร พัดลม พกพาไปในระหว่างการเข้าคิวรอกดเงินด้วย

คนที่มีเงินสดก็ดิ้นรนไปขอแลกเป็นเงินดอลลาร์ในตลาดมืด คนที่แลกไม่ได้ก็ต้องซ่อนเงินสดไว้ในบ้าน พม่าขาดเงินสดถึงขนาดที่บริษัทตัดเย็บของญี่ปุ่นร้องว่าไม่มีเงินสดจ่ายเงินเดือนให้พนักงาน กองทัพเองก็จ่ายเงินเดือนได้ไม่ครบ ทหารระดับล่างอดอยากปากแห้งถึงขนาดต้องออกปล้นประชาชนเพื่อให้ตนมีอาหารตกท้อง

ทหารไม่มีความรู้เรื่องการเงิน แต่ดันออกคำสั่งให้ธนาคารกลางพิมพ์เงินเพิ่ม การพิมพ์ธนบัตรตามใจทำให้เงินเฟ้อ ราคาสินค้าไม่ว่าน้ำมัน ยารักษาโรค แพงมโหฬาร

พม่าวันนี้ไม่เหมือนพม่าก่อน 1 กุมภาพันธ์ 2564 พม่าก่อนหน้าการรัฐประหารเป็นประเทศที่มีอนาคตสดใส การเมืองที่มั่นคง มีการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย ต่างชาติมองพม่าตาเป็นมันเพราะอยากเข้าไปลงทุน

ขณะที่คนพม่าทุกข์ แต่คนลาวกลับแฮปปี้มีความหวัง คนลาวรอวันที่ 2 ธันวาคม 2564 ซึ่งจะเป็นวันครบรอบ 46 ปีของการสถาปนาสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ทุกปีที่ตรงกับวันชาติ รัฐมักจะมีข่าวดีให้ประชาชนชื่นใจเสมอ

...

6 ปีที่แล้ว 2 ธันวาคม 2558 มีพิธีวางศิลาฤกษ์โครงการรถไฟ สปป.ลาว-จีน ความกว้างของราง 1.435 เมตร ถ้าขนส่งผู้โดยสาร ความเร็วอยู่ที่ 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถ้าขนส่งสินค้า ความเร็วถูกกำหนดไว้ที่ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

รถไฟสายนี้จะเปิดให้ใช้ได้ในวันที่ 2 ธันวาคม 2564 การขนส่งทั้งสินค้าและผู้คนจะระเบิดเถิดเทิง ขณะนี้มีข่าวดีมาที่ สปป.ลาวตลอด ศุกร์ที่ผ่านมา บริษัทเสบียงอาหารจีน สาขาเมืองเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน ลงนามสั่งสินค้าเกษตรจาก สปป.ลาวเป็นมูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (4.689 หมื่นล้านบาท) นี่แค่มณฑลเดียวนะครับ ตอนนี้ ทุกมณฑลของจีนต่างจ้องจะซื้อสินค้าการเกษตรจาก สปป.ลาวทั้งนั้น เพราะการขนส่งทั้งทางรถยนต์และรถไฟทำได้สะดวก

สินค้าที่บริษัทลงนามสั่งซื้อไปให้ประชาชนคนเหอหนานทั้ง 95 ล้านคนทาน มี 9 รายการคือถั่วดิน 1 แสนตัน แป้งมันสำปะหลัง 1 แสนตัน เนื้อวัวแช่แข็ง 1 แสนตัน เม็ดมะม่วงหิมพานต์ 2 แสนตัน มะม่วง 1 แสนตัน ทุเรียน 5 หมื่นตัน ถั่วเหลือง 2 แสนตัน กล้วย 1 แสนตัน และน้ำตาล 5 แสนตัน

ลาวเตรียมพื้นที่ 1 แสนเฮกตาร์ (6.25 แสนไร่) เพื่อผลิตสินค้าที่สั่งซื้อลอตนี้ ก่อนหน้านี้จีนก็ลงนามซื้อข้าวจาก สปป.ลาวไปแล้ว 2 หมื่นตัน และกำลังจะซื้อข้าวอีก 5 หมื่นตัน

14-17 กรกฎาคม 2561 ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิธณัฐนำเพื่อนไลน์ไอดี @ntp59 จำนวน 40 กว่าชีวิต ไปประชุมกับเจ้าเมือง ท่านอุดง วงสะหวาด และหัวหน้าส่วนราชการแห่งเมืองหินเหิบ ซึ่งเป็นเมืองที่มีสถานีรถไฟลาว-จีน และมีจุดพักรถมอเตอร์เวย์สายหลวงพระบาง-เวียงจันทน์ เพื่อขอทราบรายละเอียดในการเช่าที่ดินสำหรับทำการเกษตรส่งผลผลิตไปขายในจีน

นอกจากเมืองหินเหิบแล้ว อาจารย์นิติภูมิธณัฐยังพาเพื่อนไลน์ทั้ง 40 คนไปดูสวนเงาะ ทุเรียน มังคุด ฯลฯ ที่เมืองวังเวียง รวมทั้งประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านการค้าการลงทุนของ สปป.ลาว และธนาคาร

ถ้าพูดถึงความหวัง

ช่างต่างกันเหลือเกินครับ

ระหว่างคนพม่ากับคนลาว.

นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com