ถ้าเกาหลีมีซัมซุง และจีนส่งหัวเหว่ยมายึดหัวหาดแผ่อิทธิพลไปทั่วโลก มหาอำนาจทางเศรษฐกิจเก่าแก่อย่าง “ญี่ปุ่น” ก็ไม่สิ้นไร้ไม้ตอกอย่างที่โดนสบประมาท เพราะอย่างน้อยแดนซามูไรยังมีแบรนด์แฟชั่นที่เป็นผู้นำนวัตกรรมโลก เช่น “ยูนิโคล่” ซึ่งครองความเป็นขวัญใจผู้บริโภคฉลาดเลือกทั่วทุกมุมโลก

ทำยังไงให้คู่แข่งตามไม่ทัน? ทำยังไงให้เป็นที่หนึ่งในใจ? นี่คือโจทย์ใหญ่ที่ทำให้ “ยูนิโคล่” พัฒนาตัวเองอย่างไม่หยุดยั้งตลอดเวลากว่า 3 ทศวรรษที่ผ่านมา โดย “ทาดาชิ ยานาอิ” ประกาศชัดว่า เราไม่ใช่บริษัทแฟชั่น แต่เราเป็นบริษัทเทคโนโลยี!! เขาเชื่อเสมอว่านวัตกรรมคือกุญแจสำคัญของธุรกิจสมัยใหม่ ถ้านำนวัตกรรมมาใช้น้อยเกินไปจนไม่สามารถดึงดูดความสนใจจากผู้บริโภคได้ ก็อาจประสบชะตากรรมเดียวกับ “โกดัก” บริษัทฟิล์มที่เคยยิ่งใหญ่ในอดีต แต่ไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับยุคดิจิทัล สุดท้ายก็ถูกกลืนหายไปอย่างน่าเสียดาย ซึ่งยูนิโคล่จะไม่มีวันเป็นเช่นนั้น

ถึงจะเติบโตมาจากร้านตัดสูทเล็กๆในจังหวัดห่างไกลความเจริญของญี่ปุ่น แต่ไม่ใช่เรื่องฟลุกแน่ๆที่ “ทาดาชิ ยานาอิ” จะสร้างเนื้อสร้างตัวจนกลายเป็นคนรวยที่สุดในประเทศ และมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก เขาก่อตั้งแบรนด์ยูนิโคล่ เมื่อปี 1984 ที่จังหวัดฮิโรชิมา โดยเริ่มสร้างตัวตนจากการเป็นแบรนด์ท้องถิ่น จำหน่ายเสื้อผ้าพื้นฐานที่จำเป็น ไม่วิ่งตามเทรนด์แฟชั่นสไตล์เดียวกับ GAP เน้นผลิตจำนวนมากๆ ขายครั้งละมากๆ ราคาไม่แพง เอากำไรน้อย แต่ใส่แล้วทำให้ดูดีมีบุคลิก และใช้ได้ในทุกโอกาส สอดคล้องกับอัตลักษณ์ของสินค้าญี่ปุ่น ที่ต้องถูกทนดีมีคุณภาพ เรียบๆแต่มีสไตล์

...

หลังขยายสาขาไปทั่วญี่ปุ่นมากกว่า 500 สาขา เมื่อคิดสยายปีกออกไปเปิดสาขาในต่างประเทศ “ทาดาชิ” ก็เร่งปฏิวัติแบรนด์เพื่อสร้างเอกลักษณ์ที่ขาดหายไป เพื่อเปลี่ยนจากแบรนด์เสื้อผ้าแบบพื้นๆ มาเป็นแบรนด์แฟชั่นที่ล้ำนวัตกรรม เขายังกำจัดจุดอ่อนของยูนิโคล่เรื่องความจืดชืดไร้สีสัน โดยว่าจ้างนักออกแบบชั้นนำจากต่างชาติมาร่วมงาน พร้อมติดต่อศิลปินดังๆมาช่วยกันดีไซน์เสื้อผ้ายูนิโคล่ให้ดูเก๋ไก๋มีสไตล์ ความพยายามดังกล่าวได้ผลเกินคาด เพราะสามารถลบภาพ “โกดังเก็บผ้า” ของยูนิโคล่ไปได้อย่างหมดจด กระทั่งปัจจุบันมีสาขาอยู่ทั่วทุกมุมโลกมากกว่า 2,249 สาขา

การสร้างแบรนด์ยูนิโคล่ให้ยิ่งใหญ่ และเป็นที่รักของผู้บริโภคทั่วโลก ส่วนหนึ่งมาจากการทุ่มเททำงานหนักและเข้มงวดกับพนักงาน “ทาดาชิ” บริหารสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ ที่เน้นระเบียบวินัยและความอดทนสูง ใครเป็นแฟนยูนิโคล่คงจะคุ้นชินกับภาพพนักงานยืนโค้งคำนับลูกค้าด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ขณะที่มือเป็นระวิงต้องพับผ้าเก็บผ้าทั้งวัน

จะว่าไปแล้ว “ทาดาชิ” อาจไม่อหังการเท่ากับเจ้าพ่อโซนี่ ที่ยุคหนึ่งเคยพาญี่ปุ่นไปประกาศศักดามาทั่วโลก แต่เขาก็ขึ้นชื่อว่าเป็นแบบอย่างของผู้บริหารยุคใหม่ ที่กล้านำเทคโนโลยีมาใช้กับธุรกิจได้อย่างชาญฉลาด เขาไม่ได้ลงทุนแต่เฉพาะเรื่องการพัฒนานวัตกรรมของสินค้า ซึ่งเป็นจุดแข็งสำคัญ แต่ยังเป็นผู้นำในการบุกเบิกตลาดออนไลน์ก่อนใครเพื่อน โดยลงทุนเชื้อเชิญศิลปินอินเตอร์แอ็กทีฟมือฉมังของญี่ปุ่น “ยูโกะ นากามูระ” มาช่วยพัฒนาเว็บไซต์ของแบรนด์จนฮิตฮอตติดลมบน

ในขณะที่ธุรกิจกำลังพุ่งทะยานไปข้างหน้า แปลกแต่จริงที่ดีเอ็นเอของยูนิโคล่กลับไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลย เพราะเป้าหมายตลอดกาลคือ การเป็นที่หนึ่งในใจ!! “ทาดาชิ” ทิ้งห่างคู่แข่งแบบไม่เห็นฝุ่น ขึ้นมาเป็นแบรนด์แฟชั่นใหญ่อันดับ 3 ของโลก รองจาก ZARA และ H&M ด้วยกลยุทธ์ง่ายๆแต่จริงใจ เขาตั้งใจทำกำไรให้น้อยที่สุด โดยเน้นขายสินค้าคุณภาพสูงในราคาจับต้องได้ และมีอายุการใช้งานยาวนาน เพื่อให้ลูกค้ารักยูนิโคล่มากที่สุด แล้วกลับมาอุดหนุนสินค้าของยูนิโคล่อีกเรื่อยๆ ถือคติรักพี่น้อยๆแต่ขอให้รักกันนานๆ.

มิสแซฟไฟร์