เจ้าหน้าที่ความมั่นคงเมียนมาปะทะกับผู้ประท้วงต่อต้านรัฐประหาร ดับเพิ่มอีก 38 ศพ ทางการประกาศใช้กฎอัยการศึกใน 2 เขตของย่างกุ้ง ขณะที่มีโรงงานทอผ้าของจีนถูกมือมืดเผาทำลายด้วย
สำนักข่าว บีบีซี รายงานว่า ชาวเมียนมาออกมาประท้วงต่อต้านการรัฐประหารอย่างต่อเนื่อง เข้าสู่สัปดาห์ที่ 6 แล้ว นับตั้งแต่รัฐบาลของนางออง ซาน ซูจี ถูกกองทัพยึดอำนาจ และทำให้ชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้ ตกสู่ความวุ่นวายและทำให้เศรษฐกิจเป็นอัมพาตจากการประท้วงหยุดงาน
สถานการณ์ในวันอาทิตย์ที่ 14 มี.ค. 2564 เจ้าหน้าที่ความมั่นคงเปิดฉากยิงปืนเข้าใส่ผู้ชุมนุมในเขตหล่ายธายา ซึ่งเป็นพื้นที่ยากจนและที่อยู่ของคนต่างด้าวภายในนครย่างกุ้ง เป็นเหตุให้มีผู้ชุมนุมเสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 21 ศพ และมีผู้บาดเจ็บถูกส่งไปโรงพยาบาลจำนวนมาก
...
นอกจากนี้ยังมีรายงานพบผู้เสียชีวิตอีกอย่างน้อย 17 ศพ ในเมืองอื่นๆ ของเมียนมาเมื่อวันอาทิตย์ รวมถึงที่เมืองใหญ่อันดับ 2 อย่าง มัณฑะเลย์ และที่เมืองพะโค หรือหงสาวดี ซึ่ง MRTV ระบุว่า มีตำรวจเสียชีวิต 1 นาย หลังได้รับบาดเจ็บที่หน้าอกระหว่างการเผชิญหน้ากับผู้ชุมนุม ทำให้เขากลายเป็นตำรวจนายที่ 2 ที่เสียชีวิตระหว่างรับมือการประท้วง
เหตุนองเลือดล่าสุดทำให้จำนวนผู้ประท้วงที่เสียชีวิตขยับเข้าใกล้ 100 ศพแล้ว ขณะที่สมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมือง (AAPP) ระบุว่า นับตั้งแต่ทหารยึดอำนาจเมื่อ 1 ก.พ. จนถึงเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา มีผู้ถูกทางการจับกุมไปแล้วมากกว่า 2,100 คน
ขณะเดียวกัน สถานทูตจีนในเมียนมาออกมาเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ของเมียนมา ออกมาตรการที่มีประสิทธิภาพ เพื่อหยุดพฤติกรรมความรุนแรงและลงโทษผู้กระทำผิด เพื่อรับประกันความปลอดภัยของทรัพย์สินและประชาชนของพวกเขา หลังจากมีโรงงานทอผ้าซึ่งจีนเป็นผู้สนับสนุนเงินทุน 2 แห่ง ถูกคนร้ายไม่ทราบฝ่ายจุดไฟเผา
รัฐบาลทหารยังประกาศใช้กฎอัยการศึกในเขตหล่ายธายา และเขตฉ่วยปีธา ซึ่งอยู่ติดกัน หลังสถานทูตจีนในเมียนมาออกมาเรียกร้องให้พม่า ออกมาตรการที่มีประสิทธิภาพ เพื่อหยุดพฤติกรรมความรุนแรงและลงโทษผู้กระทำผิด เพื่อรับประกันความปลอดภัยของทรัพย์สินและประชาชนของพวกเขา หลังจากโรงงานของพวกเขาอย่างน้อย 10 แห่งซึ่งส่วนใหญ่เป็นโรงงานทอผ้าถูกคนร้ายไม่ทราบฝ่ายจุดไฟเผา และมีพนักงานชาวจีนได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก