ขณะที่ตะวันตกหลายประเทศพูดถึงเรื่องการแข่งขันกับจีน โดยบอกว่าจีนเป็นประเทศที่ท้าทายระบบระหว่างประเทศ จีนอย่างโน้น จีนอย่างนี้ ประเทศตะวันตกส่วนใหญ่จะเอ่ยถึงจีนในแง่ลบเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ไม่ดีให้กับชาติรัฐและประชาชนคนจีน

นานทีปีครั้ง จีนจึงจะโต้ตอบกลับสักครั้ง แต่โต้ตอบกลับแต่ละครั้งพวกตะวันตกก็นั่งตัวงอเพราะจุก การให้ข่าวของผู้นำจีน ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องความก้าวหน้าของตัวเองมากกว่าเรื่องการตำหนิติเตียนชาติอื่น อย่างในตอนนี้ ที่ดังระเบิดเถิดเทิงก็คือการประกาศชัยชนะของสี จิ้นผิงในเรื่องที่จีนสามารถเอาชนะความยากจน จนสามารถผงาดขึ้นมาเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก โดยไม่ทิ้งคนยากคนจน คำประกาศของประธานาธิบดีสีอาจทำให้ หลายคนเผยอแสยะแบะปากอยากจะอาเจียน โดยเฉพาะคนที่ยังไม่เคยไปประเทศจีน และยังจินตนาการว่าบนถนนหนทางในประเทศจีนยังเต็มไปด้วยคนปั่นจักรยานดีดกระดิ่งกริ๊งๆ

ที่น่าสนใจในขณะนี้ก็คือ การประชุมประจำปีของสมาชิกสภานิติบัญญัติระดับชาติที่กำหนดรายละเอียดของพันธกิจที่รัฐบาลต้องทำ เป้าหมายที่ชัดเจนของจีนเป็นเรื่องเศรษฐกิจที่ต้องการให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) โตกว่าร้อยละ 6 ต้องการให้มีการสร้างตำแหน่งงานในพื้นที่เมืองเพิ่มกว่า 11 ล้านอัตรา ต้องการลดสัดส่วนการขาดทุนต่อจีดีพีให้เหลือร้อยละ 3.2 ต้องการขยายความต้องการการบริโภคภายในประเทศและการลงทุนที่มีประสิทธิภาพ ฯลฯ เขียนให้เข้าใจง่ายขึ้นก็คือ จีนต้องการกลับมาสู่ความรุ่งเรืองเฟื่องฟุ้งทางเศรษฐกิจเหมือนก่อนวิกฤติโควิด-19

ความใฝ่ฝันปรารถนาของจีนเมื่อ 40 ปีที่แล้วก็คือ จีนต้องการเป็นเบอร์ 1 ในด้านการผลิตยาอม ยาดม ยาหม่อง มีดพก กระจกเงา กระเป๋าหิ้ว แว่นตา นาฬิกา ฟันปลอม ฯลฯ แต่ พ.ศ.2564 นี้ไม่ใช่แล้วครับ จีนต้องการเป็นผู้นำเบอร์ 1 ในด้าน ปัญญาประดิษฐ์ยุคใหม่

...

ทุกประเทศก็มุ่งเรื่องเอไอหรือปัญญาประดิษฐ์ แต่ยังสงสัยว่าเป็นเอไอ “ยุค” ไหน บางประเทศอาจจะเป็นเอไอปฐมยุค แต่จีนใช้คำว่า Next-Generation Artificial Intelligence คือเอไอยุคถัดไป ซึ่งจีนจะเป็นผู้นำทางด้านนี้

อีกเรื่องที่น่าสนใจมากคือ จีนจะพัฒนาเทคโนโลยีด้านสมองหรือ Brain Science จีนมุ่งหวังตั้งใจว่าจะต้องเป็นผู้นำโลกเบอร์ 1 ของโลกให้ได้ก็ในเรื่องของสารกึ่งตัวนำ หรือ Semiconductors พันธุศาสตร์และเทคโนโลยีชีวภาพ การสาธารณสุขและเวชศาสตร์คลินิก

มีความลับแห่งจักรวาลและทรัพยากรทางแร่ธาตุอีกมากมายหลายอย่างในอวกาศห้วงลึก หรือ Deep Space และมหาสมุทรห้วงลึก หรือ Deep Sea ที่จีนประกาศว่าจะเป็นเบอร์ต้นในด้านการไปสำรวจ รวมทั้งการสำรวจขั้วโลก
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับใหม่ของจีน กำหนดให้จีนทุ่มงบประมาณด้านการค้นคว้าวิจัยไม่ต่ำกว่าร้อยละ 7 ของงบประมาณชาติ ซึ่งเป็นเม็ดเงินมากมายมหาศาลที่ไม่เคยปรากฏในด้านงบประมาณการค้นคว้าวิจัยของประเทศใดมาก่อน

ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯแผ่นเสียงตกร่องเรื่องที่จะไปวุ่นวายขายปลาช่อนในตะวันออกกลางและอีกหลายภูมิภาค แต่รัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง ของจีนพูดเรื่องการตั้งห้องทดลองทางวิทยาศาสตร์ระดับชาติให้ทั่วถึง พูดถึงการเร่งให้จีนมีการพัฒนาด้านสารสนเทศเชิงควอนตัม พูดถึงความต้องการที่จะให้จีนยืนอยู่ บนขาตัวเอง ลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างชาติ

ตั้งแต่สมัยก่อนตอนโน้นจนถึงยุคของทรัมป์ จีนโดนตะวันตกไล่บี้ขยี้ๆ จนชอกช้ำระกำใจหลายรอบ มีการแบนหัวเว่ย จับกุมผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเทคโนโลยีสารสนเทศจีน ซึ่งเรื่องนี้ไม่ต้องมาอรรถาธิบายขยายความรับใช้กันดอกครับ เป็นที่รู้โดยทั่วกันว่าจีนผ่านการถูกตะวันตกบี้ในเรื่องอะไรมาบ้าง

เวลาเจ็บ หลายประเทศจะร้องเอ๋งๆ แต่จีนไม่ร้องแลกแหกกระเฌอ อย่างตะวันตกบางประเทศ ทว่า จีนนอนเลียแผลรักษาตัวเอง เมื่อเริ่มคลายจากอาการเจ็บแล้ว จีนก็พร้อมจะติดเขี้ยวเล็บและกระโจนออกไปสู้กับศัตรู.

นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com