เจ้าชายแฮร์รี่ยืนยัน ควีนเอลิซาเบธที่ 2 กับ เจ้าชายฟิลิป ไม่ใช่สมาชิกราชวงศ์ที่ตั้งคำถามเกี่ยวกับสีผิวของโอรสอาร์ชี ก่อนจะมีพระประสูติการ หลังมีการเปิดเผยเรื่องบทสนทนาดังกล่าวเมื่อวันอาทิตย์
เมื่อวันจันทร์ที่ 8 มี.ค. 2564 โอปราห์ วินฟรีย์ พิธีกรชื่อดังชาวอเมริกัน ออกรายการ ‘CBS This Morning’ เพื่อพูดถึงการให้สัมภาษณ์พิเศษของ เจ้าชายแฮร์รี่ ดยุคแห่งซัสเซกซ์ และเมแกน ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น และชี้แจงเพิ่มเติมเกี่ยวกับหนึ่งในการเปิดเผยที่น่าตกใจที่สุดที่ว่า มีสมาชิกราชวงศ์อังกฤษองค์หนึ่ง ตั้งคำถามเกี่ยวกับสีผิวของโอรสอาร์ชี
เมแกนบอกกับ โอปราห์ วินฟรีย์ ในรายการ ‘CBS special’ เมื่อวันอาทิตย์ว่า มีความกังวลและการสนทนาในเรื่องสีผิวของโอรสอาร์ชี ที่อาจมีผิวสีน้ำตาลเข้ม ในขณะที่เธอยังไม่มีประสูติการ ขณะที่เจ้าชายแฮร์รี่ตรัสว่า พระองค์จะไม่มีวันเปิดเผยบทสนทนานั้น เพราะมันกลืนไม่เข้าคายไม่ออก และพระองค์ก็รู้สึกตกพระทัยเล็กน้อย
ในการให้สัมภาษณ์ดังกล่าว เจ้าชายแฮร์รี่ไม่ได้เปิดเผยว่าสมาชิกราชวงศ์คนดังกล่าวเป็นใคร แต่วินฟรีย์บอกกับ เกย์ล คิง พิธีกรของช่อง CBS ว่า ดยุคแห่งซัสเซกซ์ ต้องการชี้แจงให้ชัดเจนผ่านตัวเธอว่า สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 กับพระสวามี เจ้าชายฟิลิป ซึ่งเป็นพระอัยยิกากับพระอัยกาของพระองค์ ไม่เกี่ยวข้องกับบทสนทนานี้
...
“พระองค์ (เจ้าชายแฮร์รี่) ต้องการทำให้แน่ใจว่า ดิฉันรู้ และดิฉันมีโอกาสที่จะเปิดเผยเรื่องนี้ ว่าไม่ใช่พระอัยยิกากับพระอัยกาของพระองค์ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสนทนาเหล่านั้น” วินฟรีย์กล่าว “พระองค์ไม่ได้บอกดิฉันว่าใครมีส่วนร่วมกับบทสนทนานี้บ้าง อย่างที่ทุกคนได้เห็นแล้วว่า ดิฉันพยายามจะหาคำตอบ ทั้งในจอและนอกจอ”
นอกจากนี้ รายการ CBS This Morning ยังออกเผยแพร่ภาพช่วงหนึ่งของการสัมภาษณ์ที่ไม่ได้ออกอากาศเมื่อวันอาทิตย์ด้วย ซึ่งแสดงให้เห็น เจ้าชายแฮร์รี่ตรัสว่า การเหยียดเชื้อชาติ เป็นปัจจัยใหญ่ ในเหตุผลที่พระองค์กับชายาตัดสินใจย้ายมาอยู่แคลิฟอร์เนีย หลังจากถอนตัวจากการปฏิบัติพระกรณียกิจของเชื้อพระวงศ์ และได้เซ็นสัญญากับ เน็ตฟลิกซ์ และ สปอติฟาย
เจ้าชายแฮร์รี่ ยังเปิดเผยถึงการสนทนาที่เกิดขึ้นในงานระดมทุนงานหนึ่ง “หนึ่งในผู้ที่มาร่วมการเลี้ยงอาหารเย็น พูดกับข้าพเจ้าว่า ‘อย่าทำแบบนี้กับสื่อเลย พวกเขาจะทำลายชีวิตของพระองค์’ ชายคนนี้เป็นเพื่อนกับบรรณาธิการมากมาย แล้วข้าพเจ้าก็ถามว่า ‘ช่วยขยายความได้หรือไม่ว่าคุณพูดถึงอะไร?’ ซึ่งแน่นอนว่าข้าพเจ้ารู้ความหมาย”
“เขาพูดว่า ‘พระองค์จำเป็นต้องเข้าใจว่า UK มีทิฐิแรงมาก’ แล้วข้าพเจ้าก็หยุดและพูดว่า ‘UK ไม่ได้มีทิฐิแรง สื่อ UK ต่างหากที่มีทิฐิ โดยเฉพาะพวกแท็บลอยด์ นั่นคือสิ่งที่คุณต้องการจะสื่อใช่หรือไม่’ แล้วเขาก็พูดต่อว่า ‘ไม่ใช่ UK นี่แหละที่มีทิฐิ’ ข้าพเจ้าจึงตอบไปว่า ‘ข้าพเจ้าไม่เห็นด้วยอย่างสิ้นเชิง’ แต่น่าเสียดายที่ หากแหล่งข้อมูลเป็นพวกทุจริต, เหยียดเชื้อชาติ หรือมีอคติแล้ว มันจะบดบังคนอื่นๆ ที่เหลือในสังคมทั้งหมด”
ที่มา: deadline