ล้มลุกคลุกคลานมาหลายทศวรรษกว่าจะประสบความสำเร็จกลายเป็น “เจ้าพ่ออีคอมเมิร์ซของโลก” ถ้าจะต้องก้มต่ำเดินเซๆบ้าง เพราะไปเหยียบตาปลาทางการจีนเข้าอย่างจัง คนอย่าง “แจ็ค หม่า” ผู้ก่อตั้งอาลีบาบา กรุ๊ป ก็คงไม่ถอดใจยอมแพ้ง่ายๆ ดีไม่ดีระหว่างเก็บตัวอยู่ในหลุมหลบภัยอาจคิดอะไรใหม่ๆออกมาให้โลกได้ฮือฮา

“แจ็ค หม่า” ไม่ได้หายตัวไปไหน แต่ต้องการเก็บตัวสักระยะหนึ่ง สำนักข่าวซีเอ็นบีซีได้รับการยืนยันจากแหล่งข่าวของอาลีบาบา หลังมีข่าวสะพัดว่า เจ้าพ่ออีคอมเมิร์ซถูกอุ้ม และหายตัวไปอย่างลึกลับตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา หลังโชว์วิสัยทัศน์วิพากษ์วิจารณ์หน่วยงานกำกับกฎระเบียบทางการเงินของจีน ส่งผลให้ “แอนท์ กรุ๊ป” บริษัทฟินเทคของอาลีบาบา ถูกทางการจีนสกัดดาวรุ่งสั่งระงับนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ ดับฝันทำลายสถิติโลกเป็นหุ้นไอพีโอใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ ที่มีการระดมทุนสูงสุดถึง 34,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ งานนี้ แว่วว่า “เฮียหม่า” ถูกเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางจีน และฝ่ายกำกับดูแลธนาคารของทางการจีน เรียกตัวไปให้ปากคำ จากนั้นก็ไม่ปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชน

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีข่าวเกี่ยวกับการหายตัวปริศนาของผู้ท้าทายรัฐบาลจีน แม้แต่แพทย์หญิงอู่ฮั่นคนแรก “อ้าย เฟิน” ที่ออกมาแจ้งเตือนเรื่องการระบาดของไวรัสโควิด-19 พร้อมเผยแพร่รูปผู้ป่วยที่ติดเชื้อไปทั่วโลกออนไลน์ ก็หายตัวไปอย่างลึกลับมาแล้ว เช่นเดียวกับนักข่าวจีนที่ตีแผ่สถานการณ์วิกฤติในเมืองอู่ฮั่น ยังไม่นับรวมถึงการหายตัวปริศนาของ “เหริน จื้อเฉียง” เจ้าสัวอสังหาฯ ที่เป็นคู่กัดรัฐบาลจีนมาหลายปี หลังพลั้งปากเรียก “ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง” ว่าตัวตลก และวิจารณ์ทางการจีนเรื่องความไร้ประสิทธิภาพรับมือโควิด-19

...

แฟนๆของอาลีบาบาคงรู้ดีว่า “เฮียหม่า” อยู่เป็นและอยู่เย็นขนาดไหน ถึงอยู่รอดปลอดภัยทำธุรกิจในจีนได้อย่างราบรื่นมาหลายทศวรรษ แม้จะปากกล้าท้าลุยไปทั่วทิศ แต่เจ้าพ่ออีคอมเมิร์ซก็แทบไม่เคยแตะรัฐบาลจีนตรงๆ แถมยังมีสายสัมพันธ์แน่นแฟ้นมาตลอด โดยเมื่อ 2 ปีก่อน อาเฮียได้รับความไว้วางใจให้เป็น 1 ใน 100 สมาชิกผู้ทรงเกียรติและที่ปรึกษาของพรรคคอมมิวนิสต์จีน เคียงบ่าเคียงไหล่กับมหาเศรษฐีแถวหน้าของแดนมังกรและบุคคลผู้สร้างชื่อเสียงเป็นหน้าเป็นตาของประเทศ

ในเมื่อทางการจีนให้เกียรติ “เฮียหม่า” มาตลอด ก็ย่อมเจ็บใจเป็นธรรมดา เมื่อโดนคนกันเองวิพากษ์วิจารณ์ออกสื่อแบบไม่ไว้หน้า!! ผู้นำสูงสุดของประเทศอย่าง “ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง” และชาวคณะ ไม่ถูกรูหูอย่างมาก ที่เจ้าพ่ออาลีบาบาล้ำเส้นออกมาพูดทำลายภาพลักษณ์รัฐบาลจีน และเอาดีใส่ตัว โดยวิจารณ์หน่วยงานที่ดูแลกำกับด้านการเงินของรัฐว่าเป็นตัวฉุดรั้งนวัตกรรม และเป็นที่รวมตัวของสมาคมคนชรา แถมยังตีแสกหน้าว่าระบบการเงินจีนไม่มีการจัดการความเสี่ยงอย่างเป็นระบบ!! ฝากวาทกรรมไว้ลือลั่น “เราไม่ควรใช้วิธีบริหารจัดการสถานีรถไฟเพื่อจัดระเบียบสนามบิน เราไม่สามารถใช้วิธีการในอดีตเพื่อควบคุมอนาคต เกมในอนาคตเป็นเรื่องของนวัตกรรม ไม่ใช่แค่ทักษะด้านการจัดการ”

พูดตอนไหนไม่พูดดันมาพูดตอนจะนำหุ้นไอพีโอ “แอนท์ กรุ๊ป” เข้าจดทะเบียนในตลาด งานนี้เลยเจอเบรกเอี๊ยดเพื่อเชือดไก่ให้ลิงดู...ใครจะรวยจะดังแค่ไหนก็ไม่สำคัญ เพราะในแดนมังกรมี “บิ๊กบอส” เพียงหนึ่งเดียว

ไม่ว่า “เฮียหม่า” จะกินยาผิด หรือถือดีว่าเกษียณตัวเองจากตำแหน่งประธานบริหารของอาลีบาบาไปแล้ว ตั้งแต่ปลายปี 2019 คำสั่งฟ้าผ่านี้ก็เป็นผลมาจากการแสดงวิสัยทัศน์ของอาเฮียเต็มๆ โดยแหล่งข่าววงในยืนยันว่า งานนี้ “ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง” เป็นคนสั่งล้มไอพีโอของ “แอนท์ กรุ๊ป” ด้วยตัวเอง ทำให้ถูกระงับก่อนเปิดขายไม่ถึง 48 ชั่วโมง ตอกย้ำว่าพรรคคอมมิวนิสต์คือผู้มีอำนาจตัวจริง

จากที่เคยเป็นลูกรักก็กลายเป็นลูกชังไปในชั่วข้ามคืน ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ “เฮียหม่า” ยังเป็นที่โปรดปรานอย่างมากของรัฐบาลจีน ถึงขนาดมีการเรียกขานยุคที่เทคโนโลยีเฟื่องฟูในจีนว่า “ยุคของหม่า หยุน” ซึ่งเป็นชื่อจริงของ “แจ็ค หม่า” ต้องตามติดอย่ากะพริบตาว่า “แจ็ค หม่า” ผู้สะกดคำว่าแพ้ไม่เป็น จะพลิกเกมกลับมาสู้ยังไง หรือจะถึงจุดสิ้นสุดของยุคหม่าซะแล้ว?!

มิสแซฟไฟร์