หุ้นสหรัฐฯ ปิดผสม จากความกังวลเรื่องสถานการณ์โควิด-19 และแรงฉุดจากหุ้นดิสนีย์ ขณะที่ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น สวนทางราคาทองที่ลดลงสู่ค่าต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดการซื้อขายวันที่ 14 ธ.ค. 2563 แบบผสมผสาน โดยดัชนีดาวโจนส์ลดลง 184.82 จุด หรือราว 0.62% ปิดที่ 29,861.55 จุด ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 15.97 จุด หรือราว 0.44% ปิดที่ 3,647.49 จุด ขณะที่ดัชนีแนสแด็กเพิ่มขึ้น 62.17 จุด หรือราว 0.50% ปิดที่ 12,440.04 จุด

ดาวโจนส์กับเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้นในช่วงแรกของการซื้อขาย แต่ลดลงในเวลาต่อมา หลังจาก แดเนียล แซลมอน นักวิเคราะห์ของบริษัท BMO ลดระดับหุ้นของ วอลต์ ดิสนีย์ จากระดับ ‘outperform’ เป็น ‘market perform’ พร้อมกับบอกกว่า ตัวเลือกอันดับหนึ่งของเขาคือ เน็ตฟลิกซ์ ไม่ใช่ ดิสนีย์พลัส ทำให้หุ้นของดิสนีย์ลดลง 3.65%

นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงกังวลเรื่องสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-18 แม้ว่าสหรัฐฯ และอังกฤษจะเริ่มกระจายวัคซีนแล้ว แต่นักวิเคราะห์ระบุว่า นักลงทุนรู้ดีว่าวัคซีนไม่ใช่กระสุนเงินที่จะมาปราบไวรัสได้ทันที และการกระจายวัคซีนไม่ได้รวดเร็วอย่างที่พวกเราหวังเอาไว้

แต่ความหวังเรื่องวัคซีนโควิด-19 ช่วยดันราคาน้ำมันให้เพิ่มสูงขึ้นในวันจันทร์ จากความคาดหวังว่า การกระจายวัคซีนจะช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัวเร็วขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ความต้องการพลังงานเพิ่มขึ้นตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม กลุ่มโอเปกลดการคาดการณ์ความต้องการพลังงานในปี 2020-2021 ลง ทำให้ราคาน้ำมันไม่เพิ่มขึ้นมากเท่าที่ควร

สัญญาซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้า เวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต (WTI) งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 0.42 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 0.9% ไปอยู่ที่ 46.99 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อบาร์เรล ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบ เบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 0.28 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 0.56% ไปอยู่ที่ 50.25 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อบาร์เรล

...

ด้านราคาทองคำ ลดลงสู่ค่าต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ เนื่องจากการกระจายวัคซีนต้านโควิดเพิ่มความหวังเรื่องการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ทำให้นักลงทุนหันไปลงทุนในทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงสูงขึ้น โดยสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าตลาดโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 1.10 ดอลลาร์สหรัฐ หรือเกือบ 0.1% ปิดที่ 1,837.40 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อออนซ์

ที่มา: Reuters