เมื่อ 2 พ.ย. ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต แห่งฟิลิปปินส์ เดินทางจากบ้านเกิดที่เมืองดาเวา ไปยังกรุงมะนิลา เพื่อตรวจสอบสภาพความเสียหายจากพายุไต้ฝุ่น “โคนี” ซึ่งถือว่าทรงอิทธิพลสุดสำหรับฤดูมรสุมของฟิลิปปินส์ หลังซัดขึ้นฝั่งเกาะลูซอน ที่ตั้งเมืองหลวงตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 1 พ.ย.ตามเวลาท้องถิ่น หอบกำลังเร็วลมสูงสุด 310 กม./ชม. และทำให้เกิดฝนเทกระหน่ำที่สร้างความเสียหายอย่างหนักก่อนอ่อนตัวลง เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 16 ราย บาดเจ็บจำนวนหนึ่ง สูญหายอีก 3 คน คาดตัวเลขความสูญเสียอาจเพิ่มขึ้น

ขณะเดียวกัน หัวหน้ากรมตำรวจฟิลิปปินส์ก็ลงพื้นที่ไปยังเมืองกิโนบาตันของจังหวัดอัลเบย์ หลังมีรายงานว่าบ้านเรือนราว 300 หลังคาเรือนถูกเศษก้อนหินกับโคลนจากภูเขาไฟมายอนไหลทะลักลงมาทับ ส่วนบนเกาะคาตันดัวเนส ซึ่งมีประชากรอาศัย 275,000 คน ก็ได้รับความเสียหายหนักถึง 80% กระแสไฟฟ้าก็ถูกตัดขาด

นอกจากนี้ ทั่วทั้งเกาะลูซอนก็พบว่าบ้านเรือนกว่า 50,000 หลังไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ ทั้งนี้ พายุ “โคนี” หรือที่ฟิลิปปินส์รู้จักกันว่า “โรลลี” เป็นพายุลูกที่ 18 ของปีนี้ เมื่อสัปดาห์ก่อน ก็เพิ่งเผชิญกับพายุ “โมลาเบ” มีผู้เสียชีวิต 22 ราย และต้องรับมือพายุ “อัสนี” อีกลูกที่กำลังก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิกขณะเคลื่อนเข้าใกล้ ส่วนทางการเวียดนามก็เตรียมรับมือพายุ “โคนี” ที่คาดว่าขึ้นฝั่งตอนกลางของประเทศในคืนวันพุธ 4 พ.ย.นี้ตามเวลาท้องถิ่น.