ไม่ธรรมดาเลยที่แคดดี้แบกถุงกอล์ฟ จะสร้างเนื้อสร้างตัวจนกลายเป็นเศรษฐีหุ้นอันดับต้นๆของโลกได้ แถมยังเป็นตำนานนักลงทุนผู้ยิ่งใหญ่ ที่มีสาวกอยู่ทั่วทุกมุมเมือง ถ้า “คุณปู่วอร์เรน บัฟเฟต์” คือต้นแบบของนักลงทุนเน้นคุณค่า “ป๋าเรย์ ดาลิโอ” ผู้ก่อตั้งกองทุนเฮดจ์ฟันด์ใหญ่ที่สุดในโลก “Bridgewater Associates” ก็ถือเป็นเจ้าลัทธิการกระจายความเสี่ยง โดยใช้หลักการเศรษฐศาสตร์มหภาคเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญ เพื่อสร้างสมดุลในการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่หวั่นไหวไปกับบรรยากาศรอบตัว

เพราะสนิทซี้ปึ้กกับความล้มเหลวมาก่อน แทบเจ๊งหมดตัวตอนปี 1982 เนื่องจากตัดสินใจลงทุนผิดพลาดอย่างหนัก “ป๋าเรย์” จึงให้ ความสำคัญกับการเรียนรู้บทเรียนจากความผิดพลาด เพื่อปรับกลยุทธ์การลงทุนนำไปสู่ความสำเร็จ เขาเป็นคนที่คิดอะไรเป็นระบบมากเวลาลงทุน หรือทำธุรกิจ จะไม่ใช้ความรู้สึกนำเด็ดขาด ถึงขนาดไปฝึกสมาธิ เพื่อทำจิตใจให้สงบ “ป๋าเรย์” บอกเสมอว่า ต้องเชื่อหลักการที่สร้างมาอย่างดีจากความผิดพลาดในอดีตคือเจ็บแล้วต้องจำ คิดทบทวนสำรวจตัวเองทุกครั้ง เพื่อพัฒนาการตัดสินใจในอนาคต

หลายทศวรรษที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการเฮดจ์ฟันด์ “ป๋าเรย์” ได้รับเสียงชื่นชมเรื่องแนวทางการลงทุนที่ชัดเจน เขามีสไตล์เฉพาะตัวในการกระจายความเสี่ยงและสร้างความสมดุลในการลงทุนไปยังสินทรัพย์ต่างๆช่วงที่เกิดวิกฤติโควิด-19 “ป๋าเรย์” แนะให้ทิ้งเงิน แล้วหันมาลงทุนในทองคำ หรือหุ้นที่มีงบดุลแข็งแกร่ง เพื่อรับมือกับโลกยุคใหม่หลังเกิดการปฏิวัติเชิงโครงสร้าง ทุกวันนี้ตลาดทุนกำลังจัดสรรเงินทุนในรูปแบบไม่ปกติ เพราะธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปั๊มเงินเข้ามาในตลาดอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ดอกเบี้ยต่ำเตี้ยติดดิน เมื่อเงินสดกลายเป็นขยะที่ด้อยค่าลงทุกวัน การถือเงินสดและพันธบัตรรัฐบาลจึงไม่ก่อให้เกิดดอกผลเท่าที่ควร ทางรอดยุคนี้คือให้หันไปหาสินทรัพย์ที่รักษามูลค่าได้ดี อย่างเช่น ทองคำและหุ้น เลิกกอดเงินสดไว้ในมือ

...

“ป๋าเรย์” เป็นคนที่เชื่อว่า “หลักการ” เป็นสิ่งสำคัญสุดที่จะนำไปสู่ความสำเร็จในชีวิตและหน้าที่การงาน เขาสร้างกองทุนเฮดจ์ฟันด์จนมีความมั่งคั่งมากกว่า 17,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ก็เพราะถือคติ ว่า ก่อนจะทำอะไร ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจ การทำอาหาร หรือเตะฟุตบอลคุณต้องมีหลักในการทำมัน แล้วคุณจะทำได้ดีกว่าคนอื่น เพราะเมื่อมีหลักในการทำสิ่งนั้นๆ มันหมายความว่าจะหลีกเลี่ยงความผิดพลาดได้ดีกว่าใครๆ และบรรลุเป้าหมายได้ง่ายกว่าการลงมือทำมั่วๆ

หลักการของแต่ละคนก็ต้องสร้างขึ้นเอง ไม่ใช่ลอกเลียนแบบคนอื่น “ป๋าเรย์” เขียนไว้ในหนังสือขายดีติดเบสต์เซลเลอร์ “PRINCIPLES” ว่า คนอื่นมักถามเคล็ดลับความสำเร็จของผม ผมบอกเลยว่า ผมไม่ได้เก่งเป็นพิเศษ แต่ผมมีวิธีพิเศษที่ผมใช้ ถ้าคุณทำตามวิธีนี้คุณก็จะประสบความสำเร็จได้เหมือนกัน

ไม่มีสูตรลัดตอนเริ่มต้นในการสร้างหลักการ แต่จะต้องเรียนรู้จากความผิดพลาดลองถูกลองผิดด้วยตัวเองเท่านั้น เมื่อเวลาผ่านไปจึงจะค่อยๆสร้างหลักการที่เป็นรูปเป็นร่างของตัวเองขึ้นได้ เคล็ดลับสำคัญอีกอย่างคือต้องมีความคิดเป็นของตัวเอง อย่าลอกคนอื่นเด็ดขาด ต่อให้เอาเทคนิคของคนเก่งที่สุดในโลกมาใช้ ก็ใช่ว่าจะทำได้เหมือนกัน เขาเล่าว่าตอนเป็นเด็กก็เหมือนทุกคนที่ถูกหล่อหลอมโดยสังคมรอบด้าน แต่เมื่อพบว่าวิธีคิดเหล่านั้นไม่เข้าท่า ทำให้เขาเลิกเชื่อคนใกล้ตัวแบบไม่ลืมหูลืมตา และพยายามปรับแต่งวิธีคิดของตัวเองให้ดีขึ้น สร้างหลักการใช้ชีวิตใหม่ในแบบฉบับของตัวเอง ไม่ใช่ทำตามที่คนอื่นบอกโดยไม่คิด

“เจ็บแล้วต้องจำ ผิดพลาดแล้วต้องรีบแก้ไข” ถึงจะมีโอกาสก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ถ้าอยากไปได้ไกล ต้องกำจัด “อีโก้” ของตัวเอง และยอมรับว่าเราก็มี “จุดบอด” เมื่อถึงจุดหนึ่งที่เรายอมรับความผิดพลาดได้แล้ว ไม่ว่าจะทำอะไรในวันข้างหน้า ประสบการณ์จะสอนให้เราทำผิดพลาดน้อยลง ตัดสินใจได้ดีขึ้น

“ป๋าเรย์” ยังย้ำอีกว่า ไม่มีใครประสบความสำเร็จตั้งแต่วันแรก ยิ่งใครฝันสูงก็ยิ่งต้องเคยล้มแรงมาก่อน ความล้มเหลวจึงเป็นบททดสอบชั้นดี ถ้าล้มเลิกกลางคันก็ไม่มีวันไปสู่จุดหมาย ความสำเร็จไม่ใช่การ บรรลุเป้าหมายหนึ่งแล้วจบเหมือนที่คนส่วนใหญ่เข้าใจ เพราะไม่ว่าจะบรรลุกี่เป้าหมาย มันก็ยังไม่พอ แต่ความสำเร็จคือการที่ได้พบเป้าหมายถัดไป แล้วฟันฝ่าไปเรื่อยๆ มันคือการพัฒนาตัวเองอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสู้กับความท้าทายใหม่ๆ เตรียมลำบากไว้เลยถ้าอยากประสบความสำเร็จ ว่าแต่สิ่งที่คุณทำอยู่ทุกวันนี้ มันคู่ควรกับความฝันของคุณแล้วหรือยัง?

มิสแซฟไฟร์