ปัจจุบันมวลมนุษยชาติกำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่แพร่กระจายไปทั่วโลก มีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก เสียชีวิตแล้วกว่า 1 ล้านคน กลายเป็น “วิบากกรรม” ของผู้คนบนโลกใบนี้ เปรียบเหมือนเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ก็ว่าได้
ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนทั่วโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่มีใครสามารถบอกได้ชัดเจนว่า ทุกคนจะออกมาใช้ชีวิตกันตามปกติได้เมื่อไหร่ อยู่ที่ทุกคนต้องระวังป้องกัน และรอความหวังการคิดค้นวัคซีนสำเร็จ
...
โดยเฉพาะที่ ประเทศอินเดีย ซึ่งมีประชาชนพันกว่าล้านคน ถึงวันนี้ยอดผู้ติดเชื้อทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นอันดับ 2 ของโลก และยังไม่สามารถควบคุมให้อยู่ในวงจำกัดได้
การจะเดินทางเข้า-ออกอินเดียของผู้คนจากทั่วโลก กลายเป็นปัญหาใหญ่ เพราะแม้แต่ชาวอินเดียเอง ยังถูกรัฐบาลสั่งให้ “กักตัวเอง” จนแทบไม่สามารถประกอบอาชีพกันได้เหมือนเดิม
สำหรับชาวพุทธไทย ที่เคยเดินทางเข้า-ออก อินเดีย และ เนปาล เพื่อไปปฏิบัติธรรม ณ สังเวชนียสถาน 4 ตำบล เวลานี้ต้องระงับการเดินทางทั้งหมดไว้ก่อน ไม่เว้นแม้กระทั่งพระภิกษุสงฆ์ และพระธรรมทูตไทยทั้งมวล
ทำให้ขณะนี้ทั้งสังเวชนียสถานต่างๆ รวมถึงวัดไทยใน อินเดีย-เนปาล ต้องปิดชั่วคราว เพื่อรอให้มีวัคซีนป้องกันโควิด-19 รวมถึงความมั่นใจในการควบคุมโรคให้ได้อย่างเป็นทางการเสียก่อนเท่านั้น
การที่วัดไทยต้องปิดชั่วคราวก็เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคเข้าสู่วัด กอร์ปกับไม่มีพุทธศาสนิกชนเดินทางแวะเวียนเข้าไปปฏิบัติธรรมเช่นเดิม กลายเป็นปัญหารุมเร้าไปยังพระสงฆ์ แม่ชี ที่ต้องอยู่เฝ้าวัด
...
ขณะที่ พระธรรมทูต ส่วนใหญ่ที่เดินทางกลับประเทศไทยก่อนการแพร่ระบาดหนัก พยายามจะกลับสู่แดนพุทธภูมิ เพื่อช่วยกันดูแลวัด แต่ด้วยข้อจำกัดของรัฐบาลอินเดีย ทำให้ไม่สามารถกลับไปได้
ในวิกฤติย่อมมีโอกาสดีๆอยู่เสมอ โดยก่อนหน้านี้ พระธรรมโพธิวงศ์ (วีรยุทฺโธ) หัวหน้าพระธรรมทูตไทยสายอินเดีย-เนปาล ได้จัดสร้าง วัดสุวรรณภูมิพุทธชยันตี 989 ขึ้นที่ จ.สมุทรปราการ
พร้อมการสร้าง พระมหาเจดีย์พุทธคยา และ พระพุทธเมตตาจำลอง รวมถึงการปลูกต้น พระศรีมหาโพธิ์ ไว้ภายในวัด ทำให้ชาวพุทธได้คลายความคิดถึงแผ่นดินพุทธภูมิ ด้วยการหันไปปฏิบัติธรรมเฉกเช่นที่อินเดีย กับ คณะพระธรรมทูต ที่วัดแห่งนี้แทน
...
ปกติทุกปีที่ผ่านมาพระธรรมทูตที่ประจำอยู่ที่วัดไทยในแดนพุทธภูมิ จะได้รับกฐินบนแผ่นดินที่ก่อกำเนิดการทอดกฐินตามพุทธานุญาติเมื่อครั้งพุทธกาล แต่โควิด-19 ทำให้วัดไทยหลายแห่งมีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่ไม่ครบองค์ตามพุทธบัญญัติที่จะรับกรานกฐินได้
ล่าสุด สมเด็จพระมหาธีราจารย์ ประธานสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ มอบนโยบายให้ พระธรรมโพธิวงศ์ (วีรยุทฺโธ) ดำเนินการจัด “ผ้าป่ามหากุศล” เพื่อเยียวยาวัดไทยในอินเดีย-เนปาล ที่กำลังได้รับผลกระทบอย่างหนัก
โดย “ผ้าป่ามหากุศล” จากสุวรรณภูมิสู่พุทธภูมิ ครั้งนี้ จะมีขึ้นในวันที่ 7 พฤศจิกายน เวลา 14.00 น. ที่ วัดสุวรรณภูมิพุทธชยันตี 989 จ.สมุทรปราการ มี พระครูนรนาถเจติยาภิรักษ์ (สมพงศ์) ประธานสงฆ์วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ เป็นผู้ประสานงาน
...
ส่วนผู้ที่ไม่สามารถไปร่วมทอดผ้าป่ามหากุศลครั้งนี้ได้ แต่ประสงค์จะร่วมทำบุญด้วยสามารถบริจาคได้ที่ชื่อบัญชีวัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ เพื่อบำรุงพระอาราม ธนาคารทหารไทย สาขาสุรวงศ์ บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 078-2-14800-1
สำหรับ 32 วัดไทยในแดนพุทธภูมิ ประกอบด้วย วัดไทยพุทธคยา-วัดไทยลุมพินี-วัดไทยกุสินารา–เฉลิมราชย์ 980-วัดไทยเชตวันมหาวิหาร 939-วัดไทยพุทธภูมิ-วัดปากน้ำอินเดีย-วัดพุทธสาวิกา
วัดไทยมคธพุทธวิปัสสนา-วัดไทยสิริราชคฤห์-วัดนวมินทร์ธรรมิกราช-วัดไทยไวสาลี-วัดไทยนาลันทา-วัดอโศการาม-หอเสน มหาวิทยาลัยบานารัส-วัดกุสาวดีพุทธวิหาร-วัดบรมธาตุราชสักการ-วัดไทยรามคาม
วัดบุพพาราม (วัดป่า)-วัดไทยสาวัตถีพุทธวิปัสสนา-วัดไทยนวราชรัตนาราม 960-วัดหลวงเมืองเดือนสวนคำ (วัดป่าไทยอาหม ลักวา)-วัดนิโครธาราม 937-วัดพระราชวังกบิลพัสดุ์ 929- วัดโพธิโมลีราชบัณฑิต
วัดลัฎฐิวันสวนตาลหนุ่ม-วัดราชทูต 60-วัดสิทธารถราชมณเฑียร-วัดอโยธยาราชธานี-วัดไทยอชันตา-เอลโลร่า-สถานปฏิบัติธรรมภูริปาโล-วัดพระธรรมทูตไทยาราม และวัดสุวรรณภูมิพุทธชยันตี 989
พุทธศาสนิกชนที่ไปแสวงบุญและทำบุญที่อินเดียไม่ได้ เชิญชวนไปร่วมผ้าป่ามหากุศลครั้งนี้ อิ่มบุญเช่นกัน
สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ!!!
เด่นชัย เด่นชัยประดิษฐ์ รายงาน