คลิปกล้องติดตัวของตำรวจ เผยบทสนทนาก่อนสิ้นใจของ"จอร์จ ฟลอยด์" ชายผิวสี ระหว่างถูกตำรวจจับกุมและใช้เข่ากดคอนานกว่า 8 นาที จนเสียชีวิต

เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงาน มีการเผยบทสนทนาจากคลิปกล้องติดตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ระหว่างตำรวจ และนายจอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวสีชาวอเมริกัน ในเมืองมินนีแอโพลิส รัฐมินนิโซตา ระหว่างถูกนายเดเร็ค เชาวิน ตำรวจใช้เข่ากดคอจนเสียชีวิต เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา จนนำไปสู่เหตุประท้วงรุนแรงทั่วประเทศสหรัฐอเมริกาในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

บทสนทนานี้เป็นบทสนทนาที่ถูกบันทึกโดยกล้องติดตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจในเหตุการณ์ และถูกเปิดเผยในระหว่างการขึ้นศาลของ นายโทมัส เลน (Thomas Lane) อดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์

จากคลิปดังกล่าว ทำให้ได้ยินเสียงของนายฟลอยด์ที่ได้บอกตำรวจหลายครั้งที่ใช้เข่ากดคอเขาจนทำให้หายใจไม่ออก โดยนายเดเร็ค เชาวิน (Derek Chauvin) อดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เป็นผู้ใช้เข่ากดคอของนายฟลอยด์ ได้ตะโกนโต้ตอบให้นายฟลอยด์หยุดพูด พร้อมกล่าวว่าการพูดใช้ออกซิเจนมาก ขณะที่นายฟลอยด์ซึ่งได้ยินคำพูดของเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้กล่าวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะฆ่าตน และนาทีต่อมานายฟลอยด์ก็ไม่ขยับตัว ก่อนที่จะถูกส่งโรงพยาบาลและเสียชีวิตในเวลาต่อมา

โทมัส เลน (ซ้ายล่าง) และผู้ต้องหาคนอื่นๆ
โทมัส เลน (ซ้ายล่าง) และผู้ต้องหาคนอื่นๆ

...

อย่างไรก็ตาม นายเอิร์ล เกรย์ (Earl Grey) ทนายความของ นายโทมัส เลน ได้กล่าวว่า ลูกความของเขาเป็นตำรวจมือใหม่และเชื่อมั่นในการตัดสินใจของนายเชาวินที่เป็นตำรวจอาวุโส ซึ่งนายเลนกล่าวว่า ในขณะที่ตำรวจจับกุมนายฟลอยด์เป็นช่วงแรก เขาให้ความร่วมมืออย่างดีเยี่ยม ก่อนที่นายฟลอยด์จะเริ่มแสดงอาการขัดขืนขณะที่ตำรวจจะนำเขาเข้าไปในรถตำรวจ โดยผู้ตายอ้างว่าเขาเป็นโรคกลัวที่แคบ ซึ่งนายฟลอยด์ได้เอาหน้าของเขากระแทกเข้ากับกระจกรถตำรวจ จนทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจำเป็นต้องกดเขาลงไปกับพื้นเพื่อป้องกันไม่ให้นายฟลอยด์ขยับตัวหรือทำร้ายร่างกายตนเองเพิ่มเติม

นายเกรย์ได้กล่าวอีกว่า การตัดสินใจของเจ้าหน้าที่ตำรวจถือว่ามีเหตุผลแล้ว เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ไม่สามารถมั่นใจได้ว่าผู้ตายจะทำอะไรต่อ ทั้งนี้นายเลนยอมรับว่าทางเจ้าหน้าที่น่าจะมีวิธีรับมือเหตุการณ์ได้ดีกว่านี้

โดยนายเดเร็ค เชาวินถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมและฆาตกรรมโดยเจตนาแต่ไม่ได้ไตร่ตรองไว้ก่อน และเป็นข้อหาเดียวกันกับที่ นายโทมัส เลน กำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้.