ไฟป่า ถือเป็นหนึ่งในภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นบ่อยในหลายพื้นที่ ซึ่งอาจส่งผลกระทบยาวนานต่อสภาพแวดล้อมในระดับภูมิภาคและวัฏจักรคาร์บอนทั่วโลก

อย่างที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานนี้ในออสเตรเลีย ต้องเรียกว่าเป็นมหาวิกฤติไฟป่าเลยก็ว่าได้ เพราะความเสียหายขยายวงกว้างไฟได้มอดไหม้บ้านเรือน พรรณไม้นานาชนิด อีกทั้งสัตว์ป่าก็บาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก

อีกพื้นที่ที่ประสบกับสถานการณ์ไฟป่าหนักหนาไม่แพ้ภูมิภาคอื่นก็คืออเมริกาใต้ เมื่อปีก่อนเกิดไฟป่าไหม้ลามอย่างรุนแรงที่ผืนป่าอเมซอนในบราซิลและโบลิเวีย แต่ขณะที่นานาชาติมุ่งมองไปที่เพลิงไหม้ป่าอเมซอน ก็มีข้อมูลจากองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐอเมริกา หรือองค์การนาซา แสดงภาพหลักฐานที่ชี้ให้เห็นว่าในช่วงเวลาเดียวกันนั้น ไฟป่าที่โหมกระพืออยู่ในแถบแอฟริกากลางดูสาหัสกว่าในถิ่นอเมริกาใต้

มีงานวิจัยเผยว่าครึ่งหนึ่งของการปล่อยก๊าซคาร์บอนเกี่ยวข้องกับการเกิดเหตุการณ์ไฟป่าทั่วโลก ดังนั้น เพื่อที่จะรับมือกับภัยธรรมชาติที่อาจเกิดจากธรรมชาติเองหรือเกิดจากการกระทำของมนุษย์นั้น การทำนายหรือพยากรณ์การเกิดไฟป่านับเป็นเรื่องที่สำคัญไม่น้อย

ล่าสุด นักวิทยาศาสตร์จากห้องปฏิบัติการแห่งชาติโอ๊คริดจ์ ในรัฐเทนเนสซี สหรัฐอเมริกา ได้พัฒนาวิธีการเรียนรู้ด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เพื่อทำนายความเสี่ยงของไฟป่าตามฤดูกาลในแอฟริกา วิธีการของพวกเขาก็คือดึงข้อมูลเกี่ยวกับตัวขับเคลื่อนสภาพแวดล้อมพื้นฐาน เช่น อุณหภูมิมหาสมุทร และการเปลี่ยนแปลงพื้นผิวดิน นอกเหนือไปจากตัวชี้วัดบรรยากาศและดรรชนีทางเศรษฐกิจและสังคมที่ใช้กันโดยทั่วไป วิธีนี้ช่วยให้นักวิทยาศาสตร์เข้าใจได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับความสำคัญของตัวแปรต่างๆ เช่น ความชื้นของดิน และพื้นที่ใบที่เกี่ยวข้องกับการสังเคราะห์แสง การหายใจและคายน้ำของพรรณไม้

...

กรอบการคำนวณเพื่อพยากรณ์ดังกล่าวอาจนำไปใช้กับภูมิภาคอื่นๆ เพื่อประเมินความเสี่ยงเกิดไฟป่าทั่วโลก ซึ่งจะช่วยให้มีการจัดการปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยได้อย่างทันท่วงที.

ภัค เศารยะ