หลังสภาประชาชนจีนลงมติผ่านกฎหมายความมั่นคงในฮ่องกงฉบับใหม่ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ลงนามให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 23.00 น. วันที่ 30 มิ.ย. ระบุให้การแบ่งแยกดินแดน การล้มล้างอำนาจรัฐบาลกลาง การก่อการร้าย และการสมรู้ร่วมคิดกับต่างชาติ มีความผิดทางอาญา มีโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปีถึงตลอดชีวิต อีกทั้งจีนจะเข้าไปตั้งสำนักงานความมั่นคงของตนในฮ่องกงเพื่อบังคับใช้ ก.ม.นี้นั้น

ล่าสุดเมื่อ 2 ก.ค. สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า คณะรัฐมนตรีจีนได้แต่งตั้งนายเอริก ชาน เป็นเลขาธิการคณะกรรมการพิทักษ์ความมั่นคงแห่งชาติของเขตบริหารพิเศษฮ่องกงแล้วตามข้อเสนอของนางแคร์รี แลม ผู้นำสูงสุดของฮ่องกง ตำรวจยังจับกุมชายชาวฮ่องกงแซ่หว่องวัย 24 ปี ที่สนามบินเช็ก-แล็บก๊อกขณะจะเดินทางไปกรุงลอนดอน ในข้อหาแทงตำรวจบาดเจ็บที่ไหล่ระหว่างการประท้วง หลังจากเมื่อ 1 ก.ค. ตำรวจกวาดจับผู้ประท้วงต่อต้าน ก.ม.ความมั่นคงฉบับใหม่กว่า 300 คน ขณะที่สมาคมทนายความฮ่องกงแถลงแสดงความวิตกกังวลอย่างที่สุดใน ก.ม.ฉบับนี้ ชี้ว่าบ่อนทำลายเสรีภาพและระบบยุติธรรมอิสระในฮ่องกง

วันเดียวกัน สภาผู้แทนฯสหรัฐฯลงมติเอกฉันท์ผ่านร่างกฎหมายคว่ำบาตรธนาคารต่างๆ ซึ่งทำธุรกิจกับเจ้าหน้าที่จีนที่เกี่ยวข้องกับการกวาดล้างกลุ่มผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง ร่าง ก.ม.นี้จะถูกส่งต่อให้วุฒิสภารับรองและให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามบังคับใช้ต่อไป ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯเริ่มยกเลิกสถานะพิเศษของฮ่องกงด้วยการห้ามส่งออกสินค้าด้านการทหารและสั่งไม่ให้ฮ่องกงเข้าถึงผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีสูงของสหรัฐฯ

ส่วนนายกฯบอริส จอห์นสัน แห่งอังกฤษ เสนอให้สิทธิชาวฮ่องกงที่มีสถานะพลเมืองอังกฤษในต่างแดน (บีเอ็นโอ) ราว 3 ล้านคน เข้าไปอยู่ในอังกฤษและสามารถยื่นขอสัญชาติอังกฤษได้ในที่สุด ขณะที่นายกฯสกอตต์ มอร์ริสัน แห่งออสเตรเลียแย้มว่าอาจทำตามอย่างอังกฤษด้วยการออกวีซ่าให้ชาวฮ่องกงเข้าไปอยู่ในออสเตรเลีย

...

ด้านกระทรวงการต่างประเทศจีนแถลงว่าคัดค้านมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯโดยสิ้นเชิง และว่าจีนกำลังช่วยสหรัฐฯจัดหาเครื่องบินเช่าเหมาลำเพื่อนำนักการทูตสหรัฐฯกลับไปยังจีน ก่อนหน้านี้เมื่อ 1 ก.ค. จีนยังสั่งให้องค์กรสื่อมวลชนสหรัฐฯ 4 แห่ง คือ เอพี ยูพีไอ ซีบีเอส และสถานีวิทยุสาธารณะแห่งชาติ (เอ็นพีอาร์) แจ้งข้อมูลเกี่ยวกับทีมงาน การเงิน อสังหาริมทรัพย์ และอื่นๆต่อทางการจีนภายใน 7 วัน ส่วนสถานทูตจีนในอังกฤษเตือนว่าจีนจะใช้มาตรการตอบโต้อังกฤษที่เสนอให้สัญชาติชาวฮ่องกง จีนยังเตือนไม่ให้ออสเตรเลียแทรกแซงกิจการภายในของฮ่องกงและจีน.