...หลังเหตุวินาศกรรมช็อกโลก “911”--11 กันยายน พ.ศ.2544 ผู้ก่อการร้ายโจมตีอเมริกาครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ จี้เครื่องบินโดยสารบินพุ่งชนตึกแฝด “เวิลด์ เทรด เซ็นเตอร์” กลางมหานครนิวยอร์ก คร่าชีวิตผู้คนนับพัน ถล่มทำลายตึกสัญลักษณ์ชาติมหาอำนาจทุนนิยมลงอย่างราบคาบ...

พิบัติภัยครั้งนั้น ทำให้มาตรฐานความปลอดภัยก่อนขึ้นใช้บริการเครื่องบินโดยสาร ต้องเพิ่มความเข้มงวดกันทั้งโลกเพื่อตรวจสอบ “คน” และวัตถุแปลกปลอมอย่างละเอียด อาจเรียกได้ว่าแทบแก้ผ้าเปลือยกาย บ้างต้องถอดรองเท้า ถอดเข็มขัด ตรวจของเหลวแทบทุกสิ่งอย่างที่จะถูกนำขึ้นเครื่องบิน รวมถึงผู้โดยสารเครื่องบินทุกราย “ต้อง” เดินทางถึงพื้นที่ “เช็ก-อิน” ที่สนามบินก่อนขึ้นเครื่องอย่างน้อย 2 ชั่วโมง เผื่อเวลาต้องถูกตรวจค้นอย่างละเอียดแต่ยุคโคโรนาไวรัส 2019 “โควิด-19” ซึ่งเขย่าโลกทั้งปี 2020 แม้ทั่วโลกเพิ่งเริ่มทยอยเปิดน่านฟ้า เตรียมอ้าแขนรับนักเดินทางและนักท่องเที่ยวเข้าประเทศเพื่อเร่งฟื้นเศรษฐกิจเป็นหลัก ผู้คนนักเดินทางก็ต้องยอมแลก “ความไม่สะดวก” ทั้งต้องเตรียมเผชิญปัญหาอุปสรรคมากมายตั้งแต่ก่อนการเดินทาง จนถึงกลับสู่ดินแดนมาตุภูมิ

...

ยุคโควิด-19 เหล่านักเดินทางด้วยเครื่องบินไม่ว่าจะเป็นเที่ยวบินในประเทศหรือต่างประเทศ อาจต้องเดินทางไปถึงสนามบินก่อนเวลาขึ้นบินนานอย่างน้อย 4 ชั่วโมง เผื่อเวลาต่อแถวยาวนาน “เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล” เพื่อตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ตรวจเอกสารด้านสุขภาพ พร้อมไปกับถูกตรวจมาตรการด้านความปลอดภัยเรื่องก่อการร้ายและอื่นๆ อีกทั้งต้องเสียเวลาอีกยาวนานเพื่อชี้แจงรายละเอียดการเดินทางและแจ้งสถานที่พักทุกแห่งในพื้นที่ปลายทาง

นอกจากนั้น การเดินทางด้วยเครื่องบินยุคโควิด-19 อาจต้องจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินแพงขึ้น เพราะเครื่องบินหลายสายจำเป็นต้อง “Social Distancing” เว้นระยะห่างระหว่างเก้าอี้นั่งโดยสารเพื่อความปลอดภัย

ยิ่งไปกว่านั้น มาตรการเดินทางด้วยเครื่องบินโดยสารจำเป็นต้อง “สวมหน้ากากอนามัย” ตลอดการเดินทาง ทั้งจะได้พบปะพนักงานบริการบนเครื่องบินด้วยชุดเครื่องแบบเสมือนบุคลากรการแพทย์ตามโรงพยาบาล ตั้งแต่สวมใส่หน้ากากอนามัย สวมชุดป้องกันส่วนบุคคลและสวมถุงมือยาง

ปรากฏการณ์เท่าที่ว่ามาข้างต้น ไม่มีใครตอบได้ว่าสภาพการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติได้เมื่อไหร่ อาจเป็นปีหรือหลายปี แต่ที่แน่ๆผลพวงจาก “โควิด-19” สร้างความเสียหายแก่เฉพาะธุรกิจการบินปีนี้แล้วกว่า 84,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ.

อานุภาพ เงินกระแชง