ทำเอา “ควีนเอลิซาเบธที่สอง” ทั้งโกรธทั้งช็อกไปเลย เมื่อมารู้ทีหลังจากสื่อว่า พระนัดดาสุดเฮี้ยว “เจ้าชายแฮร์รี่” ประกาศผ่านโลกโซเชียลจะถอยออกจากการเป็นสมาชิกระดับสูงของราชวงศ์อังกฤษ และทำงานเพื่อมีอิสรภาพทางการเงิน ทำมาหากินได้เต็มตัว ขณะที่ยังคงให้การสนับสนุนสมเด็จพระบรมราชินีเอลิซาเบธที่สองอย่างเต็มที่
สถาบันกษัตริย์อังกฤษต้องสั่นคลอนไม่น้อย เพราะเรื่องนี้ไม่เป็นที่ระแคะระคายของพระบรมวงศานุวงศ์มาก่อน ทั้ง “เจ้าชายแฮร์รี่” และพระชายามะกัน “ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์” แอบตัดสินใจกันตามลำพังไม่ปรึกษาใคร โดยออกแถลงการณ์ผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว “sussexroyal” ว่า หลังครุ่นคิดอย่างหนักมาหลายเดือน ทั้งคู่ตัดสินใจว่า ปีนี้จะเริ่มแสดงบทบาทใหม่ในสถาบันอย่างรุดหน้า โดยตั้งใจจะถอยออกมาจากการเป็นสมาชิกระดับสูงของราชวงศ์ และทำงานเพื่อมีอิสรภาพทางการเงิน ขณะที่ยังคงให้การสนับสนุนสมเด็จพระบรมราชินีเอลิซาเบธที่สองอย่างเต็มที่ ทั้งคู่วางแผนที่จะรักษาสมดุลระหว่างการใช้ชีวิตในสหราชอาณาจักรกับอเมริกาเหนือ โดยคำนึงถึงภาระหน้าที่ที่ทั้งสองมีต่อควีนเอลิซาเบธที่สอง, ต่อเครือจักรภพอังกฤษ และต่อองค์กรการกุศลที่เป็นองค์อุปถัมภ์ การรักษาสมดุลทางภูมิศาสตร์นี้จะช่วยให้ทั้งคู่สามารถเลี้ยงดูพระโอรสให้เติบโตขึ้นพร้อมกับสำนึกรู้ที่ได้เกิดมาเป็นส่วนหนึ่งของราชวงศ์ ขณะเดียวกัน ก็เปิดทางให้ครอบครัวของพวกเขามุ่งไปสู่บทใหม่ของชีวิต รวมถึงการตั้งองค์กรการกุศลใหม่ๆในอนาคต
“เดลี่ เมล์” อ้างแหล่งข่าวระดับสูงในราชวงศ์อังกฤษระบุว่า ควีนเอลิซาเบธที่สอง และสมาชิก ราชวงศ์ ต่างรู้สึกผิดหวังอย่างมากกับการตัดสินใจครั้งนี้ ทั้งช็อก, ทั้งเศร้าเสียใจ และโกรธ เพราะไม่มีใครล่วงรู้มาก่อนว่าทั้งคู่ จะออกแถลงการณ์เช่นนี้ ที่น่าเจ็บใจคือ ที่ผ่านมาทุกคนในวินด์เซอร์ยอมประนีประนอมให้กับข้อเรียกร้องที่ไม่หยุดหย่อนของทั้งคู่มาตลอด
...
แหล่งข่าวของ “เดลี่ เมล์” วิเคราะห์ว่า การใช้คำว่า “step back“ แทนที่จะประกาศสละฐานันดรศักดิ์ไปเลย บ่งชี้ว่าทั้งคู่ยังอยากได้ใคร่ดีกับอภิสิทธิ์ต่างๆในฐานะพระบรมวงศานุวงศ์ โดยสิ่งที่จะสูญเสียแน่ๆเพื่อแลกกับอิสรภาพคือ เงินอุดหนุนประจำปีของพระราชวงศ์ที่ได้จากรัฐบาล ซึ่งผู้รู้ยืนกรานว่า คิดเป็นสัดส่วนแค่ 5% ของค่าใช้จ่ายทั้งปี ที่ผ่านมาการรับเงินภาษีของประชาชนทำให้ติดข้อห้ามเยอะ โดยเฉพาะห้ามมิให้พระบรมวงศานุวงศ์ทำงานหารายได้เข้ากระเป๋า ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม ทุกวันนี้ “เจ้าชายแฮร์รี่” อึดอัดเพราะมีสินทรัพย์แค่ 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นเงินมรดกตกทอดจากเจ้าหญิงไดอาน่า และควีนมัมผู้ล่วงลับ เทียบไม่ได้กับทรัพย์สินทั้งหมดของราชวงศ์อังกฤษ ที่รวมกันสูงลิ่วกว่า 88,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
นักวิเคราะห์สายวังคาดการณ์ว่า ประโยชน์ที่ “เจ้าชายแฮร์รี่” จะได้จากความบ้าบิ่นครั้งนี้คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม เพราะนอกจากจะได้อิสรภาพเต็มร้อยในการทำมาหากินอย่างที่หวังไว้ และได้ลด บทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบในการแบ่งเบาพระกรณียกิจแล้ว ดูเหมือนอภิสิทธิ์ต่างๆในฐานะพระราชวงศ์ก็ยังคงอยู่ครบเต็มเม็ดเต็มหน่วย ไม่ว่าจะเป็นความเป็นเจ้าของพระตำหนักต่างๆ, การอารักขาความปลอดภัยแบบเต็มขั้น ตลอดจนเงินอุดหนุนที่เคยได้ปีละหลายล้านจาก “เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์” ซึ่งครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งปีถึง 95% อันเป็นสิทธิ์โดยกำเนิดที่ลูกหลานของรัชทายาท
อันดับหนึ่งพึงได้รับ
เรียกว่าไม่ต้องควักแม้แต่แดงเดียว ทั้งเงินเดือนข้าราชบริพาร, ค่าใช้จ่ายชีวิตประจำวัน, ค่าซ่อมแซมต่อเติมวัง, ค่าใช้จ่ายเสด็จฯเยือนต่างประเทศ, ค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติพระกรณียกิจ แม้แต่ค่าเสื้อผ้าหน้าผม และค่าแพมเพิร์ส ก็ยังมีคนดูแลให้ตลอดชีวิต.
มิสแซฟไฟร์