หนุ่มชาวญี่ปุ่นยอมรับในศาลว่า ก่อเหตุฆาตกรรม 19 คนในบ้านพักผู้พิการใกล้กรุงโตเกียวเมื่อหลายปีก่อน แต่ระหว่างการไต่สวน เขาพยายามปลิดชีวิตตัวเอง และจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ทราบชะตากรรม

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันพุธที่ 8 ม.ค. 2563 นาย ซาโตชิ อุเอมัตสึ วัย 29 ปี ขึ้นศาลในกรุงโตเกียว เพื่อรับการไต่สวนข้อหาฆาตกรรมผู้พิการ 19 คน ในสถานดูแลผู้พิพาร ในเขตซากามิฮาระ ใกล้กรุงโตเกียว เมื่อปี 2559 ในสมัยที่เขายังเป็นลูกจ้าง และทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 25 คน

ในช่วงแรกของการไต่สวน อัยการอ่านรายละเอียดข้อกล่าวหาในคดีนี้ และถามนายอุเอมัตสึ ว่า มีรายละเอียดใดแตกต่างจากความเป็นจริงหรือไม่ ซึ่งเขาตอบว่าไม่มี อย่างไรก็ตาม ทีมทนายความฝ่ายจำเลยยังคงยืนกรานว่าลูกความของพวกเขาไม่มีความผิด เนื่องจากเขาสภาพจิตใจไม่ปกติ และในเวลาเกิดเหตุเขากำลังมึนเมาสารเสพติด

“เขาใช้กัญชาเกินขนาดและมีอาการป่วยทางจิต” ทนายความกล่าวในศาล โดยผลตรวจเลือดของนายอุเอมัตสึหลังเกิดเหตุ พบว่ามีร่องรอยของกัญชาผสมอยู่ แต่อัยการยืนยันว่า เขามีสติเพียงพอ

...

อย่างไรก็ตาม การพิจารณาคดีถูกขัดจังหวะช่วงหนึ่ง หลังจากนายอุเอมัตสึพยายามนำของบางอย่างใส่ปากตัวเอง ก่อนจะลงไปนอนทุรนทุรายบนพื้น ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องพาตัวเขาออกจากชั้นศาล และเริ่มการไต่สวนต่อโดยที่ไม่มีเขา และไม่มีการเปิดเผยว่าอาการของเขาเป็นอย่างไร

ทั้งนี้ เหตุฆาตกรรมดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 ก.ค. 2559 นายอุเอมัตสึขับรถไปยังสถานดูแลผู้พิการ สุคุอิ-ยามะยูริ-เอ็น พร้อมกับพกมีดหลายเล่มไปกลางดึก ก่อนจะเข้าไปในอาคารด้วยการทุบหน้าต่าง และเริ่มทำร้ายผู้อาศัยที่กำลังหลับอยู่ที่ละคน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 19 ราย อายุระหว่าง 19-70 ปี อีก 25 คนได้รับบาดเจ็บ ในจำนวนนี้ 20 คนอาการสาหัส

ไม่นานต่อมา นายอุเอมัตสึก็เข้ามอบตัวกับตำรวจจังหวัดคานาคาวะ โดยพกมีดเปื้อนเลือดมาด้วยหลายเล่ม