เกิดการประท้วงรุนแรงในหลายเมืองของประเทศอิหร่าน หลังจากรัฐบาลลดการอุดหนุนราคาน้ำมัน ทำให้ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นกว่า 50%

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อ 16 พ.ย. 2562 ว่า เกิดการประท้วงอย่างรุนแรงขึ้นอย่างรุนแรงในประเทศอิหร่าน หลังจากรัฐบาลประกาศลดการอุดหนุนราคาน้ำมัน และมาตรการควบคุมการซื้อน้ำมันใหม่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทำให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นกว่า 50% ในช่วงข้ามคืน โดยความรุนแรงที่เกิดขึ้นทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย

ตามมาตรการใหม่ของรัฐบาลอิหร่าน ผู้ขับขี่ยานพาหนะแต่ละคนจะได้รับอนุญาตให้ซื้อน้ำมันเบนซินได้เพียง 60 ลิตรต่อเดือนในราคาที่ 15,000 เรียลต่อลิตร (ราว 10.8 บาท) ถ้าหากต้องการซื้อเพิ่มต้องซื้อในราคาลิตรละ 30,000 เรียล ทั้งที่ก่อนหน้านี้ประชาชนสามารถซื้อเบนซินได้มากสุด 250 ลิตรต่อเดือนในราคาลิตรละ 10,000 เรียล (ราว 7.2 บาท) เท่านั้น

รัฐบาลอิหร่านอ้างว่าเหตุที่ลดการอุดหนุนน้ำมันก็เพื่อนำรายได้ที่เพิ่มขึ้นไปช่วยเหลือผู้ที่มีรายได้น้อย โดยอิหร่านกำลังกระสบปัญหาทางเศรษฐกิจจากการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ หลังรัฐบาลวอชิงตันถอนตัวจากข้อตกลงอาวุธนิวเคลียร์อิหร่าน

ตามรายงานของสำนักข่าว IRNA ในอิหร่าน ผู้ประท้วงปะทะกับตำรวจใกล้กับโรงเก็บเชื้อเพลิงแห่งหนึ่งในเมืองซีร์จาน ตอนกลางของประเทศ หลังจากผู้ชุมนุมพยายามจุดไฟเผาสถานที่แห่งนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ขณะที่เกิดการประท้วงขึ้นในอีกหลายเมืองรวมทั้งกรุง เตหะราน จนมีผู้บาดเจ็บนับสิบราย และมีผู้ประท้วงเสียชีวิตที่เมืองเบห์บาฮานด้วย

ในหลายเมือง ผู้ประท้วงออกมาแสดงความไม่พอใจด้วยการนำจักรยานยนต์ และรถยนต์มาจอดกลางถนนแล้วดับเครื่อง หรือทิ้งรถเพื่อปิดถนน มีธนาคารกับสถานีตำรวจหลายแห่งถูกจุดไฟเผา

...

ด้านอัยการสูงสุด โมฮัมหมัด จาฟาร์ มอนตาเซรี กล่าวโทษผู้ยุยงให้แตกแยกที่เขาระบุว่า มีเพียงหยิบมือ เป็นผู้จุดชนวนประท้วง และเรียกร้องให้ประชาชนอย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกลุ่มผู้ที่ต้องการแสดงการต่อต้านระบบอิสลาม นายมอนตาเซรี ยังอ้างด้วยว่า ผู้ประท้วงมีที่มาจากนอกประเทศด้วย