มีสไตล์การแต่งตัวที่เป๊ะปังโดนใจมหาชนอยู่เสมอ จนปลุกกระแสฟีเวอร์คลั่งไคล้แฟชั่นตามแบบ “เจ้าหญิงเคท” ไปทั่วโลก แม้จะขึ้นชื่อเรื่องใส่ชุดซ้ำออกงาน เอาชุดเก่ามามิกซ์แอนด์แมตช์ใหม่ เป็นที่ถูกพระทัยควีนเอลิซาเบธที่สอง แต่เอาเข้าจริงๆแล้วครึ่งหนึ่งในตู้เสื้อผ้าของ “ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์” กลับเต็มไปด้วยแบรนด์เนมดังราคาแพงระยับ แหม ซ่อนความเว่อร์ได้เก่งจริง

ปีๆหนึ่งต้องออกปฏิบัติพระกรณียกิจมากมายนับไม่ถ้วน แต่ออกงานทีไรเห็นแต่งตัวสวยพริ้งโก้หรูตลอด ขาเม้าท์เลยวิพากษ์วิจารณ์ว่า เสื้อผ้าหน้าผมสวยๆของ “ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์” ต้องมาจากเงินภาษีประชาชนแหงๆ เรื่องนี้เข้าใจผิดกันอย่างแรง เพราะคนที่รับผิดชอบดูแลค่าใช้จ่ายการแต่งตัวออกงานให้ “เจ้าหญิงเคท” คือ พ่อสามี “เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์” มกุฎราชกุมารแห่งอังกฤษ

แท็บลอยด์ดังของอังกฤษ “เทเลกราฟ” รายงานว่า เมื่อปี 2018 “เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์” ทรงควักกระเป๋า 4.96 ล้านปอนด์ จากทรัพย์สินส่วนพระองค์ “ดัชชี่ ออฟ คอร์นวอลล์” ซึ่งมีมูลค่านับพันล้านปอนด์ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสนับสนุนการปฏิบัติพระกรณียกิจของพระโอรสทั้งสององค์ คือ เจ้าชายวิลเลียมกับเจ้าหญิงเคท และเจ้าชายแฮร์รีกับดัชเชสแห่งซัสเซกส์ ซึ่งก็รวมถึงค่าแต่งตัวของพระสุณิสาทั้งสององค์ด้วย กระนั้น ถ้าเป็นการปฏิบัติพระกรณียกิจอย่างเป็นทางการ เช่น การเสด็จเยือนต่างประเทศอย่างเป็นทางการ ค่าใช้จ่ายทั้งหมดจะอยู่ภายใต้การดูแลรับผิดชอบของสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์

เกิดเป็นพระราชวงศ์แสนลำบากแท้ แม้จะเป็นแฟชั่นไอคอนของโลก ที่มีแต่แบรนด์ดังวิ่งเข้าหาอยากถวายเสื้อผ้าและเครื่องประดับให้ใส่ออกงาน แต่ตามกฎเหล็กของบั๊กกิ้งแฮมแล้ว พระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ห้ามรับเสื้อผ้าฟรีจากดีไซเนอร์เด็ดขาด ผู้สื่อข่าวของนิตยสารคอสโมโพลิแทนเคยเจาะลึกเรื่องนี้ว่า สิ่งเดียวที่พอทำได้คือ การหยิบยืมชุดและเครื่องประดับเป็นครั้งคราวจากแบรนด์เนมดัง โดยให้ดีไซเนอร์เอาชุดมาให้เลือกที่วัง ซึ่งเจ้าหญิงจะไม่เอ่ยปากเองให้เสียชื่อ แต่จะมอบหมายเป็นหน้าที่สไตลิสต์ประจำตัว ซึ่งปัจจุบัน ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ทรงใช้บริการ “นาตาชา อาร์เชอร์” เลือกสรรเสื้อผ้าให้สำหรับการปฏิบัติพระกรณียกิจเป็นทางการ และเสด็จเยือนต่างประเทศ ซึ่งหากเจ้าหญิงจะซื้อข้าวของราคาแพงจริงๆ ก็ต้องได้รับไฟเขียวจากเจ้าของเงินคือ “เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์” ไม่สามารถชี้ห่อๆได้ตามอำเภอใจ

...

ด้วยความเป็นนักช็อปตัวยง จึงเห็นกันบ่อยๆว่า “เจ้าหญิงเคท” ไปเดินช็อปแบรนด์สตรีทแฟชั่น อย่าง Zara, Topshop, GAP, John Lewis หรือแม้แต่ IKEA และมักจะหยิบมามิกซ์แอนด์แมตช์กับเสื้อผ้าแบรนด์แพงๆได้อย่างเนียนกริบ เจ้าหญิงประกาศไว้ว่า วันดีคืนดีอาจโละตู้เสื้อผ้านำข้าวของออกมาประมูลหารายได้การกุศล เดินตามรอยเจ้าหญิงไดอาน่า เหล่าสาวกจ้องฉกตาเป็นมัน

นอกจากเรื่องแฟชั่นแล้ว “ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์” ยังชอบเดินซุปเปอร์มาร์เกตใกล้บ้านเป็นชีวิตจิตใจ และมีฝีไม้ลายมือเรื่องการทำอาหารพอตัว โดยเมนูเด็ดที่มักทำให้เจ้าชายวิลเลียมเสวยคือ “ไก่อบ” นอกจากนี้ยังถนัดทำไส้กรอก, แยมผลไม้ และแกงเผ็ด เห็นอย่างนี้เจ้าหญิงโปรดอาหารรสเผ็ดจัดตั้งแต่ตอนท้องเจ้าชายจอร์จ ผิดกับเจ้าชายวิลเลียมที่แตะพริกแทบไม่ได้

ก็เพราะเป็นพ่อแม่ที่ชอบเลี้ยงลูกเอง และไปรับส่งลูกที่โรงเรียนเอง รอบตัวดัชเชสแห่งเคมบริดจ์จึงมีข้าราชบริพารไม่กี่คน ดัชเชสมอบหมายให้ “นาตาชา อาร์เชอร์” เป็นทั้งผู้ช่วยส่วนตัวและสไตลิสต์ “แคทเธอรีน ควีน” เป็นเลขาฯส่วนตัว “สจ๊วต ฮาร์วีย์” และ “สจ๊วต เฮย์ส” ดูแลเรื่องระบบรักษาความปลอดภัย “อแมนด้า คุก ทัคเกอร์” เป็นช่างทำผม ส่วนแม่บ้านมีแค่สองคน คือ “แอนโตเนลลา เฟรโซโลน” กับ “มาเรีย เทอร์เรียน บอร์รัลโล” ซึ่งเป็นพี่เลี้ยงของเจ้าชายจอร์จและเจ้าหญิงชาร์ลอตต์ ดัชเชสเพิ่งจ้างแม่บ้านเพิ่มอีกสองคน และพี่เลี้ยงหนึ่งคน มาช่วยดูแลพระโอรสองค์เล็ก “เจ้าชายหลุยส์” คนงานบ้านนี้มักอยู่ทนไม่ค่อยออกง่ายๆเหมือนบ้านน้องสะใภ้ เพราะนายหญิงไม่เหวี่ยงวีน แค่ยิ้มอ่อนๆก็สยองแล้ว.

มิสแซฟไฟร์