ไม่ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร “การอ่านหนังสือ” ก็ยังเป็นสิ่งสำคัญ แม้รูปแบบของการอ่านจะแปรเปลี่ยนไปตามเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นมาอย่างหลากหลาย และโลกอินเตอร์เน็ตก็รวบรวมข้อมูลอย่างมหาศาลให้เราสืบหาค้นคว้าสิ่งที่ต้องการได้อย่างไม่จำกัด จนทำให้การหยิบจับเอาหนังสือสิ่งพิมพ์ค่อยๆลดลงไป
แต่ก็ยังมีผู้คนส่วนหนึ่งที่เห็นว่าการอ่านหนังสือแบบเดิมๆ คือเสน่ห์และควรถนอมรักษาไว้ งานเขียนประเภทต่างๆที่นักเขียนสรรค์สร้างเรียงร้อยอักษรด้วยน้ำหมึกประทับลงบนแผ่นกระดาษ จนกลายออกมาเป็นรูปเล่ม ก็ยังเป็นสิ่งที่หลายคนนิยมพกติดตัวและหยิบขึ้นมาอ่านยามว่าง รวมถึงตกทอดจากรุ่นสู่รุ่นได้
การส่งเสริมให้ผู้คนรักการอ่านนับว่าเป็นเรื่องจำเป็นต่อทุกสังคม หนึ่งในประเทศที่ให้ความสำคัญของการอ่านหนังสือก็คือเนเธอร์แลนด์ แดนกังหันแห่งยุโรปมีกิจกรรมส่งเสริมการอ่านมาอย่างต่อเนื่องทุกๆปี ด้วยการเปิดให้มี “โบเค่นวีก” (Boekenweek) เป็นสัปดาห์ประจำปีที่อุทิศให้กับวรรณคดีชาวดัตช์ โดยจัดในช่วงเดือน มี.ค. ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2475
ประเพณีดั้งเดิมนี้ มีกติกาคือนักเขียนที่มีชื่อเสียงจะเขียนนวนิยายเรื่องพิเศษ เพื่อเป็นของขวัญแห่งสัปดาห์หนังสือ โดยจะมอบให้ฟรีๆ แก่ผู้ที่ซื้อหนังสือในช่วงเทศกาลและผู้ที่ลงทะเบียนกับห้องสมุด
ปีนี้ “นวนิยายพิเศษ” ของชาวดัตช์คือเรื่อง “Jas Van Belofte” ประพันธ์โดย ยาน ซีเบลิงค์ นักเขียนชื่อดังชาวเนเธอร์แลนด์ หนังสือเล่มนี้มีข้อเสนอที่พิเศษสมกับความเป็นหนังสือสุดพิเศษ นั่นคือ คนรักหนังสือชาวดัตช์และมีหนังสือเล่มนี้เป็นสมบัติส่วนตัว จะได้รับสิทธิโดยสารรถไฟฟรีทั่วทั้งเครือข่ายในประเทศ โดยจะใช้ได้ในวันอาทิตย์ของสัปดาห์หนังสือเมื่อ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่ง Nederlandse Spoorwegen (NS) บริษัทรถไฟของเนเธอร์แลนด์ได้สนับสนุนงานเฉลิมฉลองวรรณกรรมประจำปีดังกล่าวมาเป็นเวลายาวนาน
...
ด้าน ยาน ซีเบลิงค์ ให้สัมภาษณ์ระหว่างขึ้นรถไฟไปเมืองยูเทร็กต์เพื่อพบปะแฟนหนังสือของเขา ว่านี่คือสิ่งที่ดีที่น่าชื่นใจกับการได้เห็นใบหน้าแสดงความประหลาดปนความสุขของนักเดินทางทุกคน และบ่อยครั้งที่เห็นเด็กๆ เขาก็หวังว่าเด็กๆจะเริ่มต้นอ่านหนังสือและรักการอ่าน ซึ่งนั่นคือสิ่งที่ผู้ใหญ่อย่างเราๆต้องส่งเสริม.
ภัค เศารยะ