อีกเพียง 9 วันคือ 1 มีนาคม 2562 ก็จะถึงวันครบกำหนด เส้นตายของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน หากทั้ง 2 ประเทศไม่สามารถตกลงกันได้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก็จะขึ้นภาษีศุลกากรสินค้าจากจีนในมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 6.4 ล้านล้านบาท เป็นการขึ้นพรวดจากเดิมที่เก็บเพียงร้อยละ 10 ขึ้นมาเป็นร้อยละ 25 ถ้าเป็นอย่างนี้ โลกปั่นป่วนแน่นอนครับ เพราะประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 1 และ 2 ของโลกเล่นงานกันเอง

14-15 กุมภาพันธ์ 2562 ที่กรุงปักกิ่ง มีการเจรจาในประเด็น สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน พวกเราที่ติดตามข่าวก็คาดหวังตั้งใจว่าทั้ง 2 ประเทศน่าจะออกแถลงการณ์อะไรมาสักชิ้น เพื่อให้ชาวโลกอุ่นใจ หากเป็นข้อตกลงในทางร้าย ก็จะได้เตรียมใจกันไว้ล่วงหน้า ผมและเพื่อนฝูงชาวจีนตะแคงหูฟังว่านายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ นายโรเบิร์ต ไลต์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ จะพูดอะไรออกมาบ้าง แต่ปรากฏว่าไม่มีประเด็นที่เป็นชิ้นเป็นอันออกมาเลย เฝ้าตามข่าวจากท่านหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีของจีน ที่ไปนั่งเจรจากับสหรัฐฯ ท่านก็ยังเฉยๆ

สำหรับผม ผมว่าสหรัฐฯขอมากไปหน่อยครับ สหรัฐฯ เป็นประเทศที่จะเอาแต่ได้ อยากให้จีนปรับปรุงตัว แต่ตัวเอง ไม่ยอมปรับอะไรเลย ทรัมป์เอาแต่เรียกร้องให้จีนปรับแนวทางการดำเนินนโยบายการค้าการลงทุน ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ ให้จีนแก้ระเบียบการลงทุนจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จีนจะทำ เมื่อเห็นจีนเงียบๆ ทรัมป์ก็ตะโกนด่าว่าจีนเป็นประเทศที่จะขโมยทรัพย์สินทางปัญญาและเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ซึ่งในความเป็นจริงจีนลงทุนในเรื่องวิจัยและพัฒนาเยอะมาก แถมมีนวัตกรรมใหม่ๆที่ล้ำหน้ากว่าสหรัฐฯเยอะ

จีนเป็นประเทศสังคมนิยม การผลิตจำนวนไม่น้อยมาจากส่วนกลาง นายโดนัลด์ ทรัมป์ บอกว่า ถ้าจะให้สหรัฐฯยุติสงครามการค้า จีนต้องเลิกอุดหนุนรัฐวิสาหกิจและจะต้องไปปรับปรุงความโปร่งใสในภาคเอกชนของจีน นิสัยอย่างนี้ สหรัฐฯติดมาจากการเคยสั่งประเทศกระจิริดกระจ้อยร่อยในละตินอเมริกาให้ทำตามตัวเอง ไม่ว่าจะทำตามหรือไม่ทำตาม ประเทศเหล่านั้นก็พังย่อยยับอับปางกันไปแทบทั้งสิ้น จีนไม่ใช่ประเทศไอ้ปื๊ดลูกเจ๊น้องก้นซอยสอง ที่ไม่รู้ประวัติศาสตร์และไม่รู้เช่นเห็นชาติสิ่งที่อยู่ใต้สมองของทรัมป์ ซึ่งวันนี้สหรัฐฯทำตัวเป็นหมาป่าที่ต้องการจะเขมือบลูกแกะ สติปัญญาของทรัมป์มีน้อยขนาดไม่รู้ว่าตัวเองกำลังจะเล่นกับมังกร

...

จีนเป็นประเทศที่ไม่อยากมีเรื่องกับใคร สหรัฐฯว่าอย่างไรก็ไม่ได้โต้ตอบ แถมพยายามทำให้อารมณ์พลุ่งพล่านง่านเงื่อนของสหรัฐฯลดน้อยลงด้วยการซื้อของจากสหรัฐฯมากขึ้น แต่สหรัฐฯ ก็ไม่เห็นความพยายามของจีนตรงนี้ ยิ่งจีนซื้อของสหรัฐฯมาก นายทรัมป์ก็ยิ่งตะโกนให้จีนปฏิรูปการดำเนินนโยบายทางการค้าและเศรษฐกิจ

มีช่องเพียงเล็กน้อยที่เป็นทางออกสำหรับเรื่องนี้ซึ่งนายทรัมป์เจาะช่องไว้ คือทรัมป์พูดเมื่อ 13 กุมภาพันธ์ ว่า ตัวแกเอง อาจจะเลื่อนเส้นตายขึ้นภาษีศุลกากรสินค้าจากจีนออกไปอีก 60 วัน หากจีนส่งสัญญาณว่าจะทำตามที่สหรัฐฯสั่ง

เศรษฐกิจไทยพึ่งพาเศรษฐกิจจีนและสหรัฐฯเยอะครับ ถ้า 2 ประเทศตกลงกันไม่ได้ เราพลอยเละไปด้วยแน่นอน บวกกับสภาวะหลังเลือกตั้งที่ยังคาดการณ์อะไรไม่ได้ ประชาชนคนไทยก็กำลังลำบาก ขณะที่เขียนคอลัมน์อยู่นี่ หนี้ครัวเรือนของประชาชนคนไทยก็เพิ่มไปถึง 12.34 ล้านล้านบาท เป็นสัดส่วนหนี้สินครัวเรือนต่อจีดีพีอยู่ที่ร้อยละ 77.5

เราเป็นประเทศที่มีหนี้สาธารณะจนถึงเดือนพฤศจิกายน 2561 มากถึง 6.81 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 41.82 ต่อจีดีพี ซึ่งตอนนี้มีการทำนายทายทักกันว่า พ.ศ.2562 หนี้สาธารณะของเราจะปรับเพิ่มไปเป็นร้อยละ 43-44 ต่อจีดีพี

ไม่ต้องมีผลกระทบจากสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ เราก็เดินโซเซแล้วครับ สงครามการค้าครั้งนี้ ถ้าทั้ง 2 ประเทศยังตกลงกันไม่ได้ เราจะเป็นประเทศแรกๆที่ทรุดตามไปด้วย.

นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com