สื่อฮ่องกงเผย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทย มีหนังสือเดินทางของกัมพูชา และอาจให้มันเพื่อหลบหนีออกจากไทยในปี 2560 และใช้ตั้งบริษัทลึกลับแห่งหนึ่งในฮ่องกง...
สำนักข่าว เซาท์ ไชน่า มอร์นิง โพสต์ ของฮ่องกง รายงานว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย เป็นผู้ถือหนังสือเดินทางสัญชาติกัมพูชา ซึ่งเป็นการเพิ่มน้ำหนักให้กับทฤษฎีที่ว่า เธอหลบหนีออกจากประเทศไทยในปี 2560 ผ่านทางประเทศเพื่อนบ้านแห่งนี้ แม้ว่าทางการกัมพูชาจะปฏิเสธเสียงแข็งก็ตาม
เอกสารการตั้งบริษัทในฮ่องกง (Corporate filings) เผยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ใช้หนังสือเดินทางกัมพูชาจดทะเบียนตั้งบริษัท ‘พี.ที. คอร์เปอเรชัน คอมพานี’ (P.T. Corporation Company) ในฮ่องกง และเป็นผู้อำนวยการบริหารแต่เพียงผู้เดียว เมื่อเดือน 24 ส.ค. ปีก่อนหรือเกือบ 1 ปีหลังจากเธอหนีออกจากประเทศไทยจากข้อหาปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตโครงการจำนำข้าว ซึ่งอาจทำให้เธอต้องโทษจำคุกนานถึง 5 ปี
...
เอกสารดังกล่าวเป็นการโต้แย้งคำกล่าวอ้างของรัฐบาลกัมพูชาที่ว่าพวกเขาไม่ได้ออกเอกสารด้านการเดินทางใดๆ ให้แก่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในตอนที่เธอหนีออกนอกประเทศอย่างลึกลับ ทั้งที่ถูกรัฐบาลทหารจับตาดูตลอด 24 ชั่วโมง จึงทำให้เกิดคำถามว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีพาสปอร์ตกัมพูชาได้อย่างไร
ทั้งนี้ ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าบริษัท พี.ที. ทำธุรกิจอะไร แต่เพียง 4 เดือนหลังจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตั้งบริษัทนี้ ก็มีข่าวจากสื่อในประเทศจีนว่าเธอได้รับแต่งตั้งเป็นประธานบริษัท ‘ซัวเถา อินเทอร์เนชันแนล คอนเทนเนอร์ เทอร์มินอลส์’ (Shantou International Container Terminals) บริษัทบริหารท่าเรือในมณฑลกวางตุ้ง
การจัดตั้งบริษัท พี.ที. ในฮ่องกงของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังเผยให้เห็นขอบเขตเครือข่ายของครอบครัวชินวัตร โดยในขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นผู้อำนวยการบริษัทของ พี.ที.ที่ฮ่องกง บริษัทอีกแห่งซึ่งมีชื่อเดียวกันเป๊ะแต่ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานครและมีลูกสาว 2 คนของ นายทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ก็ถูกขึ้นบัญชีเป็นสมาชิกผู้ก่อตั้งบริษัทพี.ที.ฮ่องกง
ขณะที่เมื่อนักข่าวของ เซาท์ ไชน่า มอร์นิง โพสต์ เดินทางไปยังที่ตั้งของบริษัท พี.ที. (ในฮ่องกง) ตามที่ลงทะเบียเอาไว้ว่าอยู่ในตึกสำนักงานสูง 66 ชั้นที่เขตจิมซาจุ่ย พวกเขากลับพบว่าออฟฟิศที่ควรเป็นของของ พี.ที.กลับถูกครอบครองโดยบริษัท ‘แปซิฟิก อินเทอร์เนชันแนล แคปิตอล’ (Pacific International Capital) ที่มี นางเฉิน ฮ่วยตัน หรือ เซลีน ถัง เป็นหนึ่งในผู้อำนวยการ ขณะที่พนักงานบริษัทระบุว่า พวกเขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับบริษัท พี.ที. หรือความเกี่ยวข้องใดๆ ของบริษัทดังกล่าวกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เลย
นางเฉิน มีตำแหน่งผู้จัดการบริหารบริษัทอสังหาริมทรัพย์ในสิงคโปร์ชื่อ ‘ซิงไห่อี้ กรุ๊ป’ (SingHaiyi Group) ด้วย โดยเชื่อว่าเธอกับสามีคือ กอร์ดอน ถัง อี้กัง มีความสนิทสนมกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ มากถึงขนาดลงทะเบียนที่อยู่ของเธอที่บ้านสุดหรูในย่าน ‘เดอะ พีค’ (The Peak) ที่สามีภรรยาถังซื้อมาในราคา 250 ล้านดอลลาร์ฮ่องกงเมื่อปี 2555 ตามข้อมูลที่บันทึกไว้โดยสำนักงานจดทะเบียนที่ดิน
ความลึกลับของบริษัท พี.ที. ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น โดยเลขานุการของบริษัท มาจากบริษัท ‘เอชวายแอล’ (HYL) ผู้ให้บริการด้านเลขานุการ ซึ่งก่อตั้งขึ้นในเดือนเดียวกับบริษัท พี.ที. ซึ่ง นายอเล็กซานเดอร์ เหลียง โฮ-หยิน ทนายความและผู้อำนวยการของบริษัท เอชวายแอล ปฏิเสธการขอสัมภาษณ์จากเซาท์ ไชน่า มอร์นิง โพสต์ เกี่ยวกับเรื่องธุรกิจที่บริษัท พี.ที. ทำอยู่
...
ในด้านการเป็นประธานบริษัทซัวเถา อินเทอร์เนชันแนลฯ ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เธอเข้าเทคโอเวอร์บริษัทหลังจากบริษัท ‘ฮัตชิสัน พอร์ต โฮลดิ้ง’ (Hutchison Port Holdings) ขายหุ้น 70% ที่พวกเขาถือครองผ่านบริษัทฮ่องกงชื่อ ‘ฮัตชิสัน พอร์ต ซัวเถา’ (Hutchison Ports Shantou) เมื่อ ธ.ค.ปีก่อน ซึ่งในวันพุธที่ 9 ม.ค. ฮัตชิสัน พอร์ต ระบุว่าพวกเขาขายหุ้นทั้งหมดในให้กับนักลงทุนชาวสิงคโปร์โดยไม่เปิดเผยชื่อและราคา และไม่บอกว่าการซื้อขายเกิดขึ้นเมื่อไร
อนึ่ง นางเฉินได้รับแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการบริษัท ฮัตชิสัน พอร์ต ซัวเถา เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 2561 ขณะที่หุ้นที่เหลืออีก 30% ของบริษัทซัวเถา อินเทอร์เนชันแนลฯ ถือครองโดยกลุ่มบริษัท ‘ไชน่า เมอร์แชนต์ส พอร์ต กรุ๊ป’ สาขาซัวเถา