หนุ่มชาวไทยเล่าประสบการณ์ที่เขากับเพื่อนๆ เคยติดอยู่ในถ้ำหลวงจนเกือบเอาชีวิตไม่รอดเมื่อหลายปีก่อน ขณะที่หน่วยกู้ภัยเจาะบาดาลถ้ำหลวงสำเร็จแล้ว...
สื่อทั่วโลกกำลังเกาะติดปฏิบัติการค้นหา เด็กนักเรียนนักฟุตบอลเยาวชนทีม ‘หมูป่าอะคาเดมีแม่สาย’ อายุ 11-16 ปี จำนวน 12 คน กับโค้ชผู้ฝึกสอนวัย 25 ปี อีก 1 คน ที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ในพื้นที่ ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย มาตั้งแต่เย็นวันที่ 23 มิ.ย. ซึ่งล่าสุดในวันพฤหัสบดีที่ 28 มิ.ย. เจ้าหน้าที่สามารถเจาะบาดาลเพื่อระบายน้ำในถ้ำหลวง ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการช่วยเหลือสำเร็จแล้ว และเมื่อน้ำลดลง ทีมกู้ภัยต่างๆ ก็จะสามารถปฏิบัติการค้นหาทั้ง 13 ชีวิตได้สะดวกขึ้น
...
ในขณะเดียวกัน ชายชาวจังหวัดเชียงใหม่คนหนึ่งนามว่า อินทุ อินทร์เจริญ ได้บอกเล่าประสบการณ์ที่เขากับเพื่อนๆ เคยเข้าไปหลงติดอยู่ภายในถ้ำหลวงแห่งนี้เป็นเวลานานหลายชั่วโมง และเกือบเอาชีวิตไม่รอด ให้สำนักข่าว รอยเตอร์ส ฟัง
เมื่อปี 2545 นายอินทุและเพื่อนๆ อีก 4 คนเดินทางเข้าไปสำรวจในถ้ำหลวง ก่อนที่จะรู้ตัวว่าพวกเขาหลงทางเสียแล้ว “ผมหลงทางไปแล้ว ผมเกือบไม่รอดออกมา” นายอินทุวัย 34 ปีบอกกับรอยเตอร์ส เขายังเล่าถึงสภาพพื้นผิวภายในถ้ำด้วยว่า เต็มไปด้วยโพรงและช่องข้างทาง หลุ่มบนพื้นบางหลุมลึกมากจนมองไม่เห็นก้นหลุม
“คุณอาจตกลงไปในหลุมบนพื้น ถ้ำมีทางแยกมากมาย มันคือเขาวงกต ถ้ำยังลึกมาจนคุณไม่รู้ว่ามันจะไปสิ้นสดลงที่ใด” นายอินทุกล่าว อย่างไรก็ตามพวกเขารอดชีวิตมาได้เพราะ ราว 4-5 ชั่วโมงต่อมา เขาได้ยินเสียงกลุ่มผู้หญิงร้องขอความช่วยเหลือจากช่องทางที่เชื่อมต่อกัน พวกเขาจึงไปตามเสียงและทั้งสองกลุ่มก็ได้พบกัน และช่วยกันหาทางออกไปได้ในที่สุด “มันคือปาฏิหาริย์”
ทั้งนี้ ช่องทางในถ้ำหลวงมีความยาวกว่า 10 กิลโลเมตร ลึกเข้าไปในภูเขา โดยหน่วยกู้ภัยเชื่อว่าตอนนี้ น้ำที่ท่วมขังได้ตัดขาดเส้นทางของเด็กๆ ภายในถ้ำ ขณะที่ความพยายามที่จะช่วยเด็กๆ ของพวกเขาถูกขัดขวางโดยฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง
นายอินทุยังกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า พ่อแม่ของเด็กๆ ในพื้นที่แถบนี้ เตือนลูกหลายของตัวเองมาหลายยุคหลายสมัยแล้วว่าอย่าเข้าใกล้ถ้ำหลวง “ถ้ำนี้เป็นสถานที่ต้องห้าม พ่อแม่มักพูดว่าคุณจะไปที่ใดก็ได้นอกจากที่นั่น”.
อ่านข่าว 13 ชีวิตติดในถ้ำหลวง
...