องค์กรการกุศลออกซ์แฟมเตรียมนำเสนอรายงานต่อที่ประชุม “เวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรัม” ที่เมืองดาวอส สวิตเซอร์แลนด์ ระบุงานวิจัยพบกลุ่มมหาเศรษฐีของโลก ซึ่งมีเพียง 1 เปอร์เซ็นต์ ยิ่งรวยขึ้นช่วงปีที่แล้วเฉลี่ยมากถึง 82 เปอร์เซ็นต์ หรือเปรียบเทียบได้กับเงินที่ได้มาทุก 5 ดอลลาร์สหรัฐฯ ตลอดช่วงปีที่แล้ว ตกอยู่ภายใต้กองทรัพย์สินของกลุ่มมหาเศรษฐีถึง 4 ดอลลาร์สหรัฐฯ
รายละเอียดของงานวิจัยพบอีกว่า ชาวโลกกลุ่มที่ยังยากจนมากราว 3,700 ล้านคน ไม่ได้มีรายได้ร่ำรวยมากขึ้นตลอดช่วงปี 2560 แม้คนเหล่านั้นต้องทำงานหนัก แต่ความร่ำรวยกลับไปตกสู่เหล่านายทุนผู้ประกอบการธุรกิจใหญ่ๆ ตัวอย่างเช่น อุตสาหกรรมแฟชั่นชั้นนำของโลก 5 ยี่ห้อ พบว่า เหล่าผู้บริหารกิจการเสื้อผ้าเหล่านั้นทำงานเพียง 4 วัน มีรายได้มากกว่าแรงงานอุตสาหกรรมเสื้อผ้าในบังกลาเทศทำงานกันทั้งชีวิต
ความไม่เท่าเทียมที่เกิดขึ้นสรุปได้ว่าเหล่านักการเมืองและนักธุรกิจชั้นนำยังไม่พยายามดำเนินการแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างเพียงพอ แม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจโลกดูเหมือนดีขึ้น แต่จริงๆแล้วทั้งระบบเศรษฐกิจยังถือว่าล้มเหลว เพราะกลุ่มคนจนมากหลายร้อยล้านชีวิตยังต้องต่อสู้ดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด.