เข็มมุ่งจีน มหาอำนาจโลก
การประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนสมัยที่ 19 หรือที่เรียกว่าสมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์ ก่อนการประชุมได้รับความสนใจจากนานาประเทศเป็นอย่างยิ่ง
เพราะนอกเหนือจากการจะได้เห็นคณะกรรมการกลางพรรคชุดใหม่ 7 คนนั้นจะประกอบด้วยใครบ้าง
ใครจะได้เป็นตัวแทนเพื่อสืบสานอำนาจ “ผู้นำรุ่นใหม่”
เพราะใน 7 คนนั้น นอกเหนือจาก “สี จิ้นผิง” แล้วอีก 6 คนนั้นคือคนที่จะมาเป็นตัวแทนรุ่นต่อไป ปรากฏว่าผิดคาดครับ...
“สี จิ้น ผิง” นั้นแน่นอนคือเลขาธิการพรรคและประธานาธิบดีวัย 64 ปี ที่ดำรงตำแหน่งในสมัยที่ 2 อีก 5 ปี
“หลี่ เค่อเฉียง” นายกรัฐมนตรีสมัยที่ 2 วัย 62 ปี
“ลี่ จ้านซู” วัย 67 ปี ดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการสำนักงานกลางพรรค
“หวัง หยาง” วัย 62 ปี ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี
“หวัง หู้หนิง” วัย 62 ปี เป็นผู้อำนวยการสำนักงานวิจัยนโยบายพรรค
“หัน เจิ้ง” วัย 64 ปี เป็นคณะกรรมการประจำสำนักการเมือง
“จ้าว เล่อจี้” วัย 62 ปี เป็นหัวหน้าฝ่ายการจัดตั้งองค์กรกลางพรรค
นี่คือบุคคลที่ได้รับคัดเลือกให้เข้ามาเป็นกรรมการพรรคจำนวน 7 คน เพื่อขับเคลื่อนประเทศไปอีก 5 ปี ตามวาระ
ที่น่าสังเกตก็คือ ทั้ง 6 คนนั้นล้วนมีอายุอานามที่ใกล้เคียงกัน ไม่มีคนหนุ่มที่คาดจะเข้ามาเป็นทายาทคนต่อไป
ถือว่าอายุและโอกาสที่จะขึ้นมาแทนเป็นไปได้ยาก
นี่คือสิ่งที่ผิดความคาดหมายจากที่เคยปฏิบัติกันมา จึงมีการมองกันว่า หากเป็นอย่างนี้โอกาสที่ “สี จิ้นผิง” จะเป็นผู้นำประเทศต่อไปอย่างไม่มีกำหนด
ในจำนวนกรรมการกลางพรรคทั้ง 7 นั้น ปรากฏว่าครั้งนี้ได้มีการแต่งตั้ง “นักวิชาการ” เข้ามาเป็นกรรมการเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ คือ “หวัง หู้หนิง”
...
เขาเป็นใครมาจากไหน ทั้งๆที่ไม่เคยมีประสบการณ์ด้านการบริหารกระทรวง มณฑลหรือมหานครมาก่อน
แต่คำว่า “กุนซือใหญ่” นั่นแหละคือคำตอบ!?!
ตามข่าวระบุว่า เขาคือมันสมองสำคัญของผู้นำจีนมา 3 รุ่นแล้ว ล่าสุดก็คือ กุนซือคนสำคัญของผู้นำประเทศคนปัจจุบัน
เคยเป็นศาสตราจารย์ด้านการเมืองระหว่างประเทศ และอดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยฟูตั้น จากนั้นได้เข้ามาอยู่ในทีม “คลังสมอง” ของพรรคคอมมิวนิสต์
จนกระทั่งมาสู่ “สี จิ้นผิง” ก็ได้เป็นที่ปรึกษาใหญ่และตามติดเป็นเงาติดตัวตลอดเวลา การเดินทางไปเยือนต่างประเทศทุกครั้งจะต้องหนีบเอาไปด้วย
เขาสนับสนุนการปฏิรูปเศรษฐกิจและเสนอแนวคิดการเมืองต้องรวมศูนย์อำนาจจึงจะผลักดันการปฏิรูปให้สำเร็จได้
ต้องรักษาสมดุลระหว่างการกระจายอำนาจและการรวมศูนย์อำนาจ
จึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมไม่มีทายาทการเมืองเป็น 1 ใน 7 กรรมการกลางพรรค ทำไมจึงมีการบรรจุแนวคิดของ “สี จิ้นผิง” ในแผนพัฒนาประเทศ
จากนี้ไปก็ต้องดูกันต่อไปว่าแนวทางการเดินหน้าของผู้นำที่มีบทบาทสูงสุดจะเป็นไปอย่างไร ซึ่งโลกต่างให้ความสนใจแบบตาไม่กะพริบ
แต่ที่สำคัญคือ การประกาศว่าต่อไปนี้จะไม่มี “คนจน” อีกต่อไป.
“สายล่อฟ้า”