ศพของชายวัย 53 ปี ถูกพบอยู่ภายในรถซึ่งจอดอยู่ที่สนามบินในนครแคนซัส ซิตี้ มานานกว่า 8 เดือน ทำให้ครอบครัวของชายคนนี้ข้องใจมากว่า เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า แรนดี พอตเตอร์ อายุ 53 ปี ชาวเมืองเลเนซา รัฐแคนซัส ของสหรัฐฯ ซึ่งหายตัวไปนานกว่า 8 เดือน ถูกพบเป็นศพอยู่ภายในรถของเขา ซึ่งจอดอยู่ที่ลานจอดรถของท่าอากาศยานนานาชาติ แคนซัส ซิตี้ ในรัฐมิสซูรี ขณะที่ผลการตรวจสอบพบว่า เขาเสียชีวิตด้วยการฆ่าตัวตายตั้งแต่เดือนมกราคมแล้ว หมายความว่าศพของเขาอยู่ภายในรถคันนี้มาตลอด แต่ไม่มีใครพบ

ครอบครัวของนายพอตเตอร์ จ้างทนายความ และนักสืบเอกชนเพื่อตามหาตัวนายพอตเตอร์ พวกเขาเชื่อว่า อดีตผู้จัดการบริษัทโทรศัพท์มือถือรายนี้เสียชีวิตไม่นานหลังจากเดินทางออกจากบ้านของเขา เมื่อวันที่ 17 มกราคม ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่มีผู้พบเห็นเขาในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่

(ภาพจาก Facebook/Randy Potter)
(ภาพจาก Facebook/Randy Potter)

...

ด้านตำรวจนครแคนซัส ซิตี้ เผยว่า ศพของนายพอตเตอร์ถูกพบ เมื่อวันอังคารที่ 19 กันยายน หลังจากมีผู้ได้กลิ่นเหม็นเน่าออกมาจากรถปิกอัพ ‘ดอร์จ แรม 2014’ สีขาวของเขา ซึ่งอยู่ที่ลานจอดรถหน้าอาคารผู้โดยสาร บี ของท่าอากาศยานนานาชาติ แคนซัส ซิตี้ ซึ่งนักเดินทางสามารถจอดรถในระยะยาวหรือระยะสั้นก็ได้ โดยศพนั่งอยู่บนเบาะคนขับ ในสภาพเน่าเปื่อยรุนแรง จนตอนแรกเจ้าหน้าที่ไม่สามารถจำแนกเพศหรือใบหน้าได้ แต่ผลการตรวจสอบในเวลาต่อมา พบว่าเป็นศพของนายพอตเตอร์ ซึ่งเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตาย

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ นางแคโรไลนา ภรรยาของนายพอตเตอร์ ออกมาเรียกร้องขอคำตอบจากผู้ที่เกี่ยวข้องว่า เหตุใดจึงไม่มีใครพบศพของสามีของเธอตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา “เรื่องนี้มันเป็นไปได้อย่างไร ในอเมริกาเนี่ยนะ? รถกระบะคันหนึ่งจอดอยู่ที่นั่นตั้ง 8 เดือน เขาควรจะถูกพบเร็วกว่านี้มากหากทุกคนทำหน้าที่ของพวกเขา”

ขณะที่ นายจอห์น ปิเซร์โน ทนายความที่ครอบครัวพอตเตอร์จ้างมา ระบุว่า “เป็นเรื่องน่าประหลาดใจมาก ที่ศพของเขาไม่ถูกพบมาตั้งแต่เดือนมิถุนายนหรือกรกฎาคม เป้าหมายของเราคือหาให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น และทำไมจึงเป็นเช่นนั้น มีอะไรที่ได้ทำและไม่ได้ทำบ้าง และพยายามทำให้แน่ใจว่าเรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นกับใครอีก”