อุดรธานี สาวร้องสื่อ หนุ่มเมาขับรถเก๋งเสียหลักพุ่งชนบ้าน ได้รับความเสียหาย ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี มาตรวจที่เกิดเหตุสั่งห้ามไลฟ์สด นำตัวคนขับรถเก๋งเป่าแอลกอฮอล์ ได้ 190 แต่ไม่ดำเนินคดีเมาแล้วขับ แถมปล่อยกลับบ้านต่างคนต่างแยกย้าย ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ด้านผู้กำกับชี้แจงแล้ว

เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 1 ธันวาคม 2567 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 27/50 ซอยกิจขยัน ถนนวัฒนานุวงศ์ เขตเทศบาลนครอุดรธานี หลังได้รับการร้องเรียนจาก น.ส.มิตรา ไชยวุฒิ อายุ 29 ปี นายอุทัย ไชยวุฒิ อายุ 37 ปี และ น.ส.ศศินภา โพธิสาลี อายุ 26 ปี ว่ามีชายเมาสุราขับรถเก๋งเสียหลักพุ่งชนบ้าน ได้รับความเสียหาย โดยมีกล้องวงจรปิดหน้าบ้านเป็นหลักฐาน ชายเมาขอร้องไม่ให้แจ้งตำรวจพร้อมจะชดใช้ค่าเสียหาย แต่พวกตนเลือกแจ้งตำรวจ และขอให้ตำรวจเป่าเมา แต่ตำรวจไม่ให้ดูว่าเป่าเมาได้กี่เปอร์เซ็นต์ แถมปล่อยตัวชายเมาไป ตกบ่ายได้นำช่างมาประเมินค่าซ่อมบ้าน ซ่อมรถ แล้วก็หายไปติดต่อไม่ได้ พวกตนเกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงร้องเรียนสื่อ เหตุเกิดเวลา 04.38 น. วันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

...

ซึ่งบ้านที่เกิดเหตุ เป็นห้องเช่า 2 ชั้น 2 คูหา มีนายอุทัย ไชยวุฒิ อายุ 37 ปี เป็นเจ้าของบ้าน ส่วน น.ส.ศศินภา เป็นผู้เช่าอาศัย 1 ห้อง และอีก 1 ห้องเป็นห้องเก็บของและอุปกรณ์ช่างของนายอุทัย ซึ่งสภาพบ้านพังเสียหายจากรถเก๋งชน ประตูกระจกบานเลื่อนแตก 2 บาน ประตูไม้และผนังห้องเก็บของแตกพัง รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า ฟีโน่ สีขาว ทะเบียน 2กฉ 7043 อุดรธานี โต๊ะม้าหินอ่อน พังเสียหาย โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ คิดค่าเสียหายประมาณ 5 หมื่นบาท

น.ส.มิตรา ไชยวุฒิ อายุ 29 ปี เล่าว่า บ้านหลังนี้ครอบครัว น.ส.ศศินภา มาเช่าอาศัยอยู่ อีกห้องที่อยู่ติดกันพวกตนเอาไว้เก็บสิ่งของและอุปกรณ์ช่าง คืนเกิดเหตุ ตนนอนอยู่บ้าน ต้องตกใจตื่นเพราะได้ยินเสียงชนดังตู้ม จึงรีบลุกวิ่งออกจากบ้านมาดู เห็นรถเก๋งมาสด้า สีขาว หมายเลขทะเบียน กน 5042 อุดรธานี พุ่งขึ้นไปชนบ้าน และรถจักรยานยนต์ คนขับทราบชื่อภายหลังว่า ติ๊ก อายุ 38 ปี บ้านอยู่ชุมชนหนองตุ เขตเทศบาลนครอุดรธานี ประตูได้รับความเสียหายทั้งสองห้อง คนขับลงมามีอาการมึนเมาแอลกอฮอล์ และมีกลิ่นแอลกอฮอล์ คนขับลงมาจากรถขอร้องไม่ให้แจ้งตำรวจ จะชดใช้ค่าเสียหายเอง แต่พวกตนเลือกที่แจ้งตำรวจ

น.ส.มิตรา เล่าต่อว่า แต่พอ ร.ต.ท.ทรงภพ คำใจ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี มาที่เกิดเหตุ ได้ห้ามพวกตนไลฟ์สด พวกตนได้ขอให้เป่าเมาคนขับรถเก๋ง ตำรวจได้เป่าแต่ไม่ยอมให้พวกตนดูผลเป่า พอสอบถามตำรวจพูดว่า “ผมเป็นผู้กล่าวหา พวกคุณไม่ใช่ผู้กล่าวหา ผมจะเป่าเอง แถมพูดกวนประสาทว่า เชื่อมั้ยเป่าได้ 300 เชื่อมั้ย” แต่ไม่ให้ดูผลเป่า ไม่รู้เลยว่าผลเป่าได้เท่าไหร่ จะไปดูตำรวจก็เอาสมุดปิดไม่ให้ดู จากนั้นก็เอาเบอร์โทรศัพท์รถยกให้คนขับเก๋งลากไปเลย ไม่มีการควบคุมตัว ไม่มีการยึดรถไว้โรงพัก ต่างคนต่างแยกย้ายเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ได้คุยกับคู่กรณีซึ่งเขาบอกว่าจะรับผิดชอบ ก็มีแต่คำพูด จากนั้นก็หนีหายติดต่อไม่ได้เลย ส่วนตำรวจก็ไม่ว่าอย่างไร ให้แค่แจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ ตอนนี้แก้ไขด้วยการหาเงินจ้างช่างมาซ่อมบ้าน

“รู้สึกไม่พอใจกับการทำงานของตำรวจ เพราะว่าพวกเราเป็นผู้เสียหาย แล้วมาพูดกับพวกเราแบบนี้ เหมือนเราไปทำความผิดมา ซึ่งคู่กรณีไม่ถูกดำเนินคดีอะไรเลย มีแต่เป่าวัดปริมาณแอลกอฮอล์แล้วก็ปล่อยตัวไป อยากฝากถึงผู้บังคับบัญชาของตำรวจนายนี้ว่า อยากให้ทำงานดูแลประชาชนให้ดีๆ พูดจาให้เพราะๆกับประชาชน เพราะว่าเราหวังพึ่งคุณค่ะ และอยากฝากถึงคู่กรณีว่า อย่าทิ้งเราแบบนี้ ความทุกข์ร้อนของเราเสียหายมาก คุณเมาก็ควรนอนอยู่บ้าน อย่าทำให้คนอื่นเดือดร้อน”

ส่วน น.ส.ศศินภา เล่าว่า ตนเช่าบ้านหลังนี้อยู่อาศัย 4 คน สามี ตน และลูก 2 คน ปกติตนจะพาลูกๆ นอนอยู่ชั้นล่าง ติดกับประตูกระจกบานเลื่อน ก่อนเกิดเหตุ ตนได้พาลูกขึ้นไปนอนชั้น 2 ต่อมาได้ยินเสียงเหมือนมีอะไรชนบ้าน ก็เลยอุ้มลูกวิ่งลงมาดู ก็เห็นรถเก๋งชนประตูหน้าบ้าน เศษกระจกกระจายเต็มบ้าน คนขับมีอาการเหมือนเมา พอตำรวจมาถึงก็ลงมาถ่ายรูป เราขอให้มีการตรวจแอลกอฮอล์คนขับรถเก๋ง ซึ่งตำรวจก็พูดไม่ดีเท่าไหร่ ประมาณว่า มันเป็นสิทธิของเขาที่จะเป่าหรือไม่เป่า หลังตำรวจเป่าเมาคนขับรถเก๋ง ก็ไม่ยอมให้ตนดูผลตรวจ พอจะไปชะเง้อดูตำรวจก็เอาสมุดมาปิดหน้าตนไว้

...

“การกระทำของตำรวจ ทำให้รู้สึกแย่ เพราะเราหวังจะพึ่งตำรวจ เราเป็นผู้เสียหาย แต่ให้พวกเราเคลียร์กันเอง ไม่ดำเนินคดีกับคนขับเก๋ง ปล่อยกลับบ้าน ต่างคนต่างแยกย้าย ไม่ได้ไปลงบันทึกประจำวันที่โรงพัก ซึ่งประตูบ้านและรถจักรยานยนต์ตนเสียหาย อยากฝากถึงคู่กรณี ให้มารับผิดชอบในสิ่งที่กระทำ ไม่ใช่หนีแบบนี้ทำให้คนอื่นเดือดร้อน ส่วนตำรวจเป็นการทำงานที่แย่ ควรช่วยเหลือประชาชนให้มากกว่า ไม่แม้แต่จะถามประชาชนว่าเป็นอย่างไรบ้าง โดยปกติตนกับลูกจะนอนอยู่ชั้นล่างตลอด คืนนั้นถือว่าโชคดีที่ไม่ได้นอนชั้นล่าง พอดีต้องไปทำความสะอาดชั้นบน จึงพาลูกขึ้นไปด้วย ไม่นานก็ได้ยินเสียงชน ก็วิ่งลงมาดู ถ้าตนนอนชั้นล่าง ลูกจะเป็นคนที่บาดเจ็บที่สุด เพราะลูกชอบนอนอยู่หน้าประตู”

ทางด้าน พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า เคยเตือนพนักงานสอบสวน เกี่ยวกับการพูดจา ให้พูดจาสุภาพกับประชาชน เพราะสิ่งต่างๆ จะดีหรือไม่ดี ชาวบ้านจะพอใจหรือไม่พอใจ ก็ขึ้นอยู่ที่คำพูดของตำรวจ หลังทราบเรื่องนี้ ก็ได้ให้โทรศัพท์ไปสอบถามพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี (ร.ต.ท. ทรงภพ คำใจ) ซึ่งบอกว่า วันเกิดเหตุได้เป่าวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ชายขับรถเก๋งได้ 190 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เหตุที่ไม่ได้แจ้งข้อหา “ขับรถขณะมึนเมาสุรา เป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย” และปล่อยตัวไปนั้น เพราะต้องการเอาข้อหานี้มาใช้ต่อรองในการไกล่เกลี่ยเรียกค่าเสียหาย ถ้าแจ้งข้อหาเมาแล้วขับและดำเนินคดีไปแล้ว ก็จะไม่มีสิ่งต่อรอง ซึ่งได้สั่งให้ ร.ต.ท.ทรงภพ เชิญคู่กรณีมาที่โรงพัก เพื่อตกลงชดใช้ค่าเสียหาย และดำเนินคดีเมาแล้วขับ กับคนขับรถเก๋งในวันพรุ่งนี้ (2 ธ.ค. 67)

...