ตร.เร่งติดตามคนร้าย แทงลูกรองนายกเล็กดับ ที่บุรีรัมย์ พ่อเชื่อปมชู้สาว อาจถูกลวงไปฆ่า ขณะที่พี่สาวผู้ก่อเหตุ วอนน้องมามอบตัว
จากกรณี ช่วงค่ำวันที่ 28 ต.ค. 67 ที่ผ่านมา นายวัลลภ หรือ เปี๊ยก สิงสาท อายุ 51 ปี ลูกชายของรองนายกเทศมนตรี ตำบลละหานทราย อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ถูกคนร้าย ทราบชื่อต่อมาคือ นายสุรัตน์ บุศราคำ อายุ 47 ปี ใช้อาวุธมีดแทงเสียชีวิต หลังเกิดเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป
หลังเกิดเหตุ สอบถามเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุเล่าว่า นายวัลลภ มาถามหาแฟนสาวที่บ้านของตน จึงบอกว่าออกไปร้านค้า ให้นั่งรอที่โต๊ะหน้าบ้าน ก่อนคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์มากับหลาน แต่จังหวะนั้นตนเดินเข้าบ้าน และได้ยินเสียงเรียกนายวัลลภ จึงออกมาดู และโทรตามแฟนนายวัลลภ และโทรแจ้ง 1669 มาช่วยเหลือ
ขณะที่ น.ส.พรพิมล หรือ เจี๊ยบ อายุ 47 ปี แฟนของนายวัลลภ เล่าว่า ตนคบหาดูใจกับนายวัลลภ ส่วน นายสุรัตน์ นั้นแอบชอบตนมาตั้งแต่สมัยเรียนชั้นประถมฯ แต่ตนไม่สนใจ เพราะรู้ว่าเพิ่งออกมาจากเรือนจำ โดยช่วงเกิดเหตุทั้งสองบังเอิญมาเจอกัน จึงมีปากเสียง ทำร้ายร่างกายกัน กระทั่งใช้มีดแทงเสียชีวิต
ล่าสุด วันนี้ (29 ต.ค. 67) นายทวี สิงสาท รองนายกเทศมนตรีตำบลละหานทราย พ่อผู้ตาย เล่าว่าก่อนเกิดเหตุช่วงเย็นวานนี้ ตนและเพื่อน รวมทั้งลูกชาย นั่งดื่มกินกันอยู่ที่หลังเทศบาล จากนั้นเห็นลูกชายรับโทรศัพท์ และลุกออกไปทันที ทุกคนคิดว่าอาจจะออกไปซื้อของ หรือกลับบ้าน ผ่านไปไม่นาน มีคนโทร.มาบอกว่า ลูกชายถูกแทงอาการสาหัส ตนรีบออกไปดู แต่ลูกชายถูกนำส่งโรงพยาบาลแล้ว พอตามไปที่โรงพยาบาล พบว่าถูกแทงประมาณ 6 แผล โดยเฉพาะบริเวณหน้าท้อง มีมีดปักคาอยู่ เจ็บสาหัสกระทั่งเสียชีวิต
หลังเกิดเหตุตนไปดูโทรศัพท์ ถึงทราบว่า น.ส.พรพิมล ซึ่งลูกชายคบหาเป็นแฟนกัน เป็นคนโทรมาหาลูกชายให้ออกไปหา ก่อนหน้านี้ลูกเคยคบกับ น.ส.พรพิมล มาประมาณ 10 ปี แล้วเลิกรากันไประยะหนึ่ง แล้วกลับมาคบกันใหม่ ที่ผ่านมาตนก็เคยเตือนลูกชายหลายครั้งว่า ฝ่ายหญิงมีคนมาติดพันหลายคน ให้ระวังตัวด้วย จนมาเกิดเหตุสลดขึ้น จึงเชื่อว่ามาจากเรื่องชู้สาวแน่นอน และยังเชื่อว่าลูกชายอาจจะถูกลวงไปฆ่า เพราะพอลูกรับโทรศัพท์ก็รีบออกไปหาฝ่ายหญิง แล้วจู่ๆ ทำไมผู้ชายอีกคนถึงมาทำร้ายลูกชายได้ ทั้งที่ออกไปไม่นาน เชื่อว่าผู้ก่อเหตุน่าจะเฝ้ารออยู่แล้ว ซึ่งก็อยากให้เจ้าหน้าที่ติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว
...
จากนั้นทีมข่าวได้เดินทางไปยังบ้าน นายสุรัตน์ แต่ไม่พบตัว พบเพียงพี่สาวและพี่เขยอยู่บ้าน โดยพี่สาวผู้ก่อเหตุ เล่าให้ฟังว่า แม้จะเป็นพี่สาว แต่ไม่ค่อยได้พูดคุยกันมากนัก เพราะตนกับสามีต้องออกไปค้าขาย น้องชายก็รับจ้างทั่วไป ส่วนที่น้องชายไปก่อเหตุแทงคนอื่นเสียชีวิต ส่วนตัวไม่รู้เรื่อง มาทราบตอนเจ้าหน้าที่ตำรวจมาบ้าน จึงไม่รู้ว่าเขาไปมีปัญหาอะไรกัน ส่วนเรื่องผู้หญิง ก็ไม่เคยรู้ว่าน้องไปคบหากันใคร รู้แค่ว่า น้องเคยมีภรรยามีลูกด้วยกันอีกหมู่บ้านหนึ่งเท่านั้น หากน้องก่อเหตุจริง ก็อยากให้มามอบตัวเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย