ตำรวจเจ็บ 2 นาย หลังระงับเหตุ "ชายจีน" คลั่ง เดินถือมีดเข้าร้านสะดวกซื้อ ด้านพลเมืองดี เล่านาทีเกิดเหตุ ยันไม่มีการรุมประชาทัณฑ์ตามที่เป็นข่าว
วันที่ 28 ต.ค. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สุทธิสาร รับแจ้งเหตุจากพลเมืองดีว่า มีชายชาวจีนคลุ้มคลั่งถืออาวุธมีดเข้าไปในร้าน 7-11 ปากซอยสีม่วงอนุสรณ์ ห่างจาก สน.สุทธิสาร 400 เมตร จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
จากการสอบถามทราบว่า เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. ของวันนี้ ชายชาวจีนเดินถือมีดเข้ามาภายในร้านสะดวกซื้อ พร้อมชูพาสปอร์ต และใช้แอปฯ แปลภาษาในโทรศัพท์มือถือ พร้อมกับพูดภาษาจีน และส่งให้พนักงานร้านสะดวกซื้อซึ่งเป็นผู้หญิงดู ระบุว่า "มีคนจะมาลักพาตัวตนไปเรียกค่าไถ่" โดยลักษณะของชายคนดังกล่าวมีลักษณะตาลอย คล้ายคนมีอาการหลอน ไม่ยอมให้ผู้ชายเข้าใกล้ ยกเว้นผู้หญิงเท่านั้น
พนักงานร้านสะดวกซื้อจึงตัดสินใจโทรศัพท์แจ้ง 191 หลังจากแจ้งเหตุไปประมาณ 15 นาที ตำรวจสายตรวจ 2 นาย จาก สน.สุทธิสาร ซึ่งออกตรวจพื้นที่ได้เข้ามาที่เกิดเหตุ แต่ชายชาวจีนคนดังกล่าวไม่ยอมให้ตำรวจเข้าใกล้ แม้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะใส่เครื่องแบบเต็มยศก็ตาม
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจำเป็นต้องเข้าชาร์จ ในจังหวะที่ตำรวจเข้าชาร์จ ชายชาวจีนได้ต่อสู้ ทำให้ปลายมีดถูกปากของตำรวจ 1 นาย ได้รับบาดเจ็บ อีกนายหนึ่งมีดโดนเข้าที่บริเวณลำคอ พลเมืองดีเห็นเหตุการณ์ และยืนสังเกตการณ์อยู่ในพื้นที่บริเวณดังกล่าวประมาณ 3-4 คน ประกอบด้วยวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างหนุ่มจึงเข้าช่วยเหลือ
ด้านไรเดอร์หนุ่ม 1 ในพลเมืองดีที่ช่วยกันจับตัวหนุ่มชาวจีน เผยถึงกระแสข่าวผ่านโซเชียลที่ว่าพลเมืองดีได้รุมประชาทัณฑ์หนุ่มจีนจนถูกหามส่ง สน.สุทธิสาร นั้นไม่เป็นความจริง ตนและพลเมืองดี 3-4 คน รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยกันระงับเหตุ ล็อกตัวให้ชายคนดังกล่าวหมดทางสู้เท่านั้น ไม่มีการชกต่อยหรือรุมกระทืบตามที่เป็นกระแสข่าวก่อนหน้านี้ ซึ่งหลังเกิดเหตุ ตำรวจได้ควบคุมตัวชายคนดังกล่าวเข้ามาที่ สน.สุทธิสาร
...
ตรวจสอบพบว่า ชายชาวจีนที่ก่อเหตุ คือ นายหยาง จินซิม (Mr. Yang Jinxim) เบื้องต้นได้นำตัวเข้าควบคุมภายในห้องควบคุมผู้ต้องหา พร้อมเตรียมแจ้ง 3 ข้อหา ประกอบด้วยข้อหาทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่, ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่, พกพาอาวุธมีดไปในเมืองทางสาธารณะโดยไม่มีอันควร ส่วนตำรวจสายตรวจทั้ง 2 นาย เบื้องต้นได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว.